หญ้าหวานคืออะไรหญ้าหวานมีถิ่นกำเนิดแถวอเมริกาใต้พบมากที่สุดในประเทศบราซิล และปารากวัย ลักษณะโดยทั่วไปเป็นพืชล้มลุกขนาด 30-90 เซนติเมตร จะดูคล้ายกับต้นโหระพา ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็มีการนำเข้ามาปลูกทางแถบภาคเหนือเช่นกัน นิยมใช้แทนน้ำตาล เพราะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 150-300 เท่าเลยทีเดียว จึงเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่รักสุขภาพหรือผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแต่ต้องการทานอาหารที่มีรสหวาน
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานหรือไม่สามารถทานหวานได้เหมือนคนปกติ ชีวิตคงเหมือนขาดอะไรไปแน่นอน เพราะความหวานคือต้นทางของความอร่อยของอาหารเมนูต่างๆ การที่ใส่น้ำตาลไม่ได้เลยอาหารคงจืดชืดอยู่ไม่น้อย แต่ใครจะไปรู้ว่าผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่อย่าง “หญ้าหวาน” ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเบาหวานยังสามารถทานของหวานได้เต็มที่ แถมยังมีรสหวานไม่ต่างจากน้ำตาลเช่นเดียวกันวิสากิจชุมชุนกษตรกรจังหวัดภูเก็ต ของนางสาวราตรี ที่ได้ดัดแปลงจากหญ้าหวานที่มีสรรพคุณเจ๋งอยู่แล้วให้น่าสนใจมากขึ้น ด้วยการแปรรูหญ้าหวานเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ของตนเองภายใต้แบรนด์ “น้องเมย์หญ้าหวาน” นางสาวราตรี ศรีบุญแก้ว ผู้ประกอบการรายเดียวจากวิสากิจชุมชุนเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตและเจ้าของแบรนด์น้องเมย์หญ้าหวานกล่าวว่า หญ้าหวานลักษณะภายนอกจะมีรูป
ร่างคล้ายใบกะเพราแต่จะมีรสหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปถึง 200-300 เท่า ซึ่งถือว่าหวานมาก หากกินกาแฟก็เพียงใส่ 2-3 ใบเท่านั้น ก็หวานได้เหมือนกาแฟใส่น้ำตาลได้เลย จึงเกิดไอเดียสร้างผลิตภัณฑ์โดยแปรรูปหญ้าหวานเป็นสินค้าต่างๆ จนกลายเป็น “เมย์หญ้าหวาน” ขึ้นมา ต่อมาปี 2556 ก็ได้ขึ้นทะเบียน OTOP ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ระหว่างคัดสรรช่วงเดือนมีนาคม เพื่อขึ้นเป็นสินค้าโอทอปติดดาวอีกด้วย
“ทั้งนี้ หญ้าหวานยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายมันเท่าไหร่ เนื่องจากหญ้าหวานมีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาใต้และได้เอามาปลูกในทางเหนือของประเทศไทยเพราะมีภูมิอากาศที่หนาวคล้ายกับอเมริกาใต้ ขณะที่ภูเก็ตเป็นที่เขตอากาศร้อนแต่ก็ได้เอาพันธุ์ของหญ้าหวานมาปลูกและได้แปรรูปเป็นน้ำหรือใบแห้ง รวมไปถึงผงบดและทอดมันภูเก็ตหญ้าหวาน โดยเป็นการใช้เนื้อปลาล้วนๆ และใช้หญ้าหวานมาปรุงรสแทนน้ำตาลซึ่งดีกว่าสุขภาพแน่นอน” น.ส.ราตรี กล่าว
เจ้าของเจ้าของแบรนด์น้องเมย์หญ้าหวานบอกอีกว่า หลังจากได้แปรรูปหญ้าหวานมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายคนก็สงสัยว่าอะไรคือหญ้าหวาน และรู้สึกแปลกใจว่าหญ้าที่ดูแสนธรรมดาจะทำให้หวานเหมือนน้ำตาลได้หรือ ซึ่งหลังได้ลองทานของเราแล้วก็รู้สึกแปลกใจและชื่นชอบเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาหารยังมีรสหวานแต่ไม่เสียสุขภาพ คนที่เป็นโรคเบาหวานก็ทานได้ ซึ่งสอดคล้องกับผู้บริโภคปัจจุบันที่เริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นและถ้าใครกินของเผ็ดแล้วกำลังมองหาของดับเผ็ด หญ้าหวานก็ช่วยดับเผ็ดได้เพียงแค่ทานไป 5 นาทีเท่านั้น แถมยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ยังต้องการสัมผัสความหวานจากอาหารอีกด้วย โดยตอนนี้ได้ทำการค้าขายได้ประมาณเดือน 20,000 – 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งตอนนี้ได้จำหน่ายน้ำหญ้าหวานส่งไปที่โรงพยาบาลวชิระและโรงพยาบาลภูเก็ตอีกด้วย
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการความหวานในระหว่างพักป่วย “ตอนนี้ก็อยากให้รัฐบาลพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น เพราะตอนนี้เรายังขาดเรื่องนี้อย่มูากเน้นขายแบบพอเพียงหรือรูปแบบท้องถิ่น จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หญ้าหวานเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ” เจ้าของแบรนด์น้องเมย์หญ้าหวาน กล่าวปิดท้าย