นายประวิชย์ ศรีบัณฑิตมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านการออกแบบ ตกแต่ง ก่อสร้าง และบริหารจัดการกิจกรรมการตลาด อย่างครบวงจร กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมและมลภาวะเป็นประเด็นใหญ่ที่ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันดูแล เพราะจะส่งผลในระยะยาวอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญ กับเรื่องดังกล่าว และได้นำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ทั้งในส่วนขององค์กร พันธมิตร และหนึ่งสิ่งที่การันตีว่าคิงส์เมนฯ จริงจังกับเรื่องนี้ คือ การคว้ารางวัลการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยอดเยี่ยมประจำปี 2018 หรือ The 2018 UFI Sustainable Development Award จาก UFI (The Global Association of the Exhibition Industry) สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก โดยคิงส์เมนฯ เป็นบริษัทเดียวในเอเซีย และเป็น 1 ใน 5 รายของโลกร่วมกับหน่วยงานจากยุโรปและอเมริกาที่ได้รับรางวัล เป็นเครื่องยืนยันในคุณภาพระดับสากล โดยในปีนี้เราก็จะเข้าร่วมประกวดอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ประยุกต์ใช้หลัก 3'Rs ได้แก่ ลดการใช้ (Reduce) , ใช้ซ้ำ (Reuse) และ รีไซเคิล (Recycle) ยึดหลักจัดการการใช้พลังงาน มีการจัดการในเรื่องตารางเวลาและ แผนการทำงาน เพื่อจะหลีกเลี่ยงการทำงานเกินเวลา รวมทั้งการจัดการในด้านการจัดส่งสินค้า และการควบคุมการจัดส่ง เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น พร้อมทั้งยึดหลักการนำกลับมาใช้ใหม่ การหาแนวทางในการใช้วัสดุ ทรัพยากรอย่างยั่งยืนที่จะช่วยลดการเผาไหม้ ลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อันเป็น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่น ส่วนการดำเนินกิจกรรมส่วนต่างๆ ของงานแสดงสินค้า งานตกแต่งภายใน และงานก่อสร้าง ยึดหลักการทำงานแบบ Waste Management & Awareness, การจัดการแยกเศษวัสดุ ที่ไม่ใช้แล้ว กับวัสดุที่มีความยั่งยืน สามารถรีไซเคิลได้ และการแนะนำให้ผู้จัดงานเปลี่ยนรูปแบบของ การตกแต่ง ให้เลือกใช้วัสดุที่ความยั่งยืนอย่างโครงสร้างอลูมิเนียม และอุปกรณ์ไฟ LED ที่ประหยัดการใช้พลังงาน และสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ ให้เป็นกิจกรรมการตลาดที่ยั่งยืน (Sustainable Marketing Events) นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยี Digital เช่น QR Code สำหรับการลงทะเบียน เพื่อลดการใช้กระดาษ รวมทั้งนำวัสดุที่เหลือใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้หนังสือ เพื่อท้ายที่สุดสามารถส่งต่อไปมอบให้โรงเรียน ห้องสมุด หรือหน่วยงานท้องถิ่นได้อีก
สำหรับการดำเนินการในรูปแบบดังกล่าว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการบริหารจัดการลดลง เฉลี่ยถึงร้อยละ 15 อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกและความรู้สึกที่ดีให้แก่พนักงาน ลูกค้าและพันธมิตร รวมถึงการสร้างทัศนคติที่ดีและการยอมรับในสังคมอีกด้วย
"เราตั้งใจทำงานให้มีคุณภาพไปพร้อมกับการรับผิดชอบต่อสังคม จึงใส่ใจในทุกการดำเนินงาน เพื่อให้ทุกขึ้นตอนนั้นได้งานที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ และด้วย สภาวะอากาศที่เสี่ยงต่อการมีมลภาวะเช่นนี้ เราจึงต้องช่วยกันรวมพลังร่วมมือกัน ก็จะสามารถทำให้ เกิดผลที่ยิ่งใหญ่ได้ โดยคิงส์เมนฯ จะยังคงพัฒนากระบวนการทำงานที่สามารถช่วยลดผลกระทบเหล่านี้ ต่อไปไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ส่งผลมากหรือน้อยก็ตาม แต่อย่างน้อยเราได้เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ยังดีกว่าไม่ได้ทำะไรเลย" นายประวิชย์กล่าว