กระทรวงพาณิชย์ได้จัดให้มีการประชุมร่วม ระหว่างพาณิชย์ภาครัฐและเอกชนจาก 17 จังหวัดภาคเหนือของไทย กับ 6 แขวงของ สปป.ลาว ขึ้นเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมอิมพีเรียล โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมี น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในพิธีเปิด  ทั่งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านการค้าชายแดน การค้าผ่านแดนและโลจิสติกส์ โดยมีพาณิชย์จังหวัด หน่วยงานภาครัฐ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม จาก 17 จังหวัดภาคเหนือของไทยและผู้บริหารระดับหัวหน้าแผนกอุตสาหกรรมและการค้า สภาการค้าและอุตสาหกรรมแขวง จากแขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา แขวงอุดมไช แขวงไชยะบุรี แขวงหลวงพระบาง และแขวงพงสาลี ของ สปป.ลาว เข้าร่วมกว่า 200 คน  โดยในที่ประชุมได้มีการหารือ เพื่อรับทราบข้อมูลทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน รวมทั้งเรียบเรียงประเด็นปัญหาทางการค้าระหว่างไทย-สปป.ลาว ที่เกิดขึ้นในแต่ละจังหวัดของไทยและทั้ง 6 แขวงของ สปป.ลาว เพื่อหาข้อสรุปสำหรับหาทางออกร่วมกัน

น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นการจัดประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนระหว่างภาคเหนือของไทยและภาคเหนือของ สปป.ลาว ที่มีความสัมพันธ์ทางการค้าร่วมกันมานานเป็นครั้งแรก เพื่อการเชื่อมความส้มพันธ์และสร้างความเข้าใจต่อกัน โดยเฉพาะในปีนี้ประเทศไทยได้โอกาสเป็นประธานกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกลุ่มอาเซียนด้วย จึงใช้โอกาสนี้ในการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับการประชุมไทย-สปป.ลาว ครั้งนี้ก็จะเป็นการหารือ เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคทางการค้าชายแดนของทั้ง 2 ฝ่าย เช่น ข้อกฎหมาย การขนส่งหรือโลจิสติกส์  ทั้งในแง่ของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ สำหรับปัญหาหลักๆ ที่เข้าใจกันว่าเป็นอุปสรรคผ่านมาคือ เรื่องของโลจิสติกส์ ระบบการทำงาน ด้านเอกสารที่มีความล่าช้าระหว่างนำสินค้าผ่านแดน การหารือร่วมกันจะทำให้สามารถรวบรวมปัญหาได้อย่างครบถ้วน หากพบว่าเรื่องใดสามารถแก้ไขกันได้ในระหว่างการประชุมก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่หากเป็นระดับเจ้าหน้าที่ที่อยู่สูงขึ้นไป หรือในระดับนโยบายก็จะได้จัดทำเป็นข้อเสนอ เพื่อให้มีการแก้ไขต่อไป 

ทั้งนี้ผลดีที่ได้คือจะทำให้การค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ในภาคเหนือมีปัญหาและอุปสรรคน้อยลง เมื่อมีการค้าระหว่างกันมากขึ้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศดีขึ้นตามมา และหลังการประชุมครั้งนี้ก็จะมีการต่อยอดไปสู่การจัดงานแสดงสินค้าร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหา สำหรับจังหวัดเชียงราย มีการค้าชายแดนกับประเทศเมียนมา จีนตอนใต้ และ สปป.ลาว ผ่านจุดผ่านแดนถาวรจำนวน 6 แห่ง จุดผ่อนปรนจำนวน 9 แห่ง ที่ผ่านมามีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้การค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยในปีที่ผ่านมามีการค้าระหว่างเชียงราย-สปป.ลาว มีมูลค่ากว่า 16,185 ล้านบาท กับเมียนมา มีมูลค่า 15,159 ล้านบาท และจีนตอนใต้  19,489 ล้านบาท รวม 3 ประเทศ มีมูลค่า กว่า 50,833 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญคือน้ำมันเชื้อเพลิง  ผลไม้ ข้าวสาร เครื่องดื่มประเภทชูกำลัง สินค้าปศุสัตว์  ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญคือกระเทียมสด ผักสด  ดอกไม้ ไม้แปรรูป และลิกไนต์