อีกไม่นานเราก็กำลังจะเข้าสู่ช่วงปีใหม่กันแล้ว ถามหน่อยว่ามีใครรู้ยังว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ใครหลายคนอาจนึกถึงภาคเหนือเพื่อไปรับอากาศเย็นหนาวเหน็บ ในช่วงหน้าหนาวกันเป็นแน่ แต่ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ๆ ที่คนไม่แออัดมากนัก แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สุดตื่นตาตื่นใจเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งวัฒนธรรมที่สืบทอดมานานเป็นพันๆ ปี

                หมู่บ้านหยงสตาร์หรือจะเรียกว่าชุมชนแหลมหยงสตาร์ เป็นชุมชนที่อายุมานานนับพันๆ ปี โดยพื้นเพของคนในบนเกาะนี้ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสรามและพุทธ รวมถึงมีคนจีนอยู่ด้วนอีกประปราย ทำให้ที่แห่งนี้นอกจากมีสองศาสนาอยู่ร่วมกันแล้ว ยังมีศาลจีนประจำชุมชน ที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าโรงเก่าพระ 108-109 โดยเป็นศาลที่ทำจากไม้ทั้งหมด มีอายุกว่า 129 ปี ซึ่งลักษณะก็จะเหมือนศาลจีนแผ่นดินใหญ่เกือบทุกประการ มักเป็นศูนย์รวมจัดกิจกรรมทางศาสนามากมายทั้งเทศกาลถือศรีกินเจลุยไฟ เป็นต้น

                โดยวิถีชีวิตของคนชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ประมงหรือทำสวนยางพารา และเนื่องจากเป็นเกาะที่อยู่ติดน้ำทะเล ทำให้ใครที่เป็นแฟนพันธ์แท้อาหารทะเลจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน ด้วยความที่เป็นชุมชนที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ลักษณะเป็นบ้านแบบโบราณเก่าแก่รายล้อมไปด้วยป่าโกงกาง ผสานธรรมชาติและวิถีชุมชนได้อย่างกลมกลืนและงดงามยิ่งนัก

                 ด้วยที่ชุมชนหยงสตาร์เป็นชุมชนเก่าแก่  มีความรุ่งเรืองมาในอดีต ปัจจุบันได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกหลายด้าน เพราะฉะนั้นแหล่งเรียนรู้เลยครอบคลุมทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ 1.แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม 2.แหล่งเรียนรู้ทางสังคม 3.แหล่งเรียนรู้ที่เป็นมนุษย์หรือ บุคคล 4.แหล่งเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติหมายถึงสภาพธรรมชาติในท้องถิ่นที่สามารถนำมาใช้ให้ความรู้แก่นักเรียนได้ ตลอดจนถึงมีแหล่งเรียนรู้ที่เป็นด้านประวัติศาสตร์ ด้านสมัยใหม่ในยุคปัจจุบัน  นับว่าเป็นความโชคดีของ โรงเรียน และนักเรียนในละแวกนั้นและละแวกใกล้เคียง ที่ชุมชนหยงสตาร์มีแหล่งเรียนรู้มากมายให้ได้ใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้

                ซึ่งชุมชนหมู่บ้านหยงสตาร์นั้น จะช่วยกันประกอบอาหารยามเช้า วันนี้ได้บุกถึงครัวของคุณสุภัทร์ สุวรรณรัตน์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้บอกว่าอาหารส่วนใหญ่เป็นแกงส้ม แกงพริก ต้มส้มปลากระบอก จึงแนะนำอาหารที่ขึ้นชื่อและทำง่ายมากคือต้มส้มปลากระบอก คือ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้น หอมแดง ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำชมสายชู หรือน้ำส้มตาลตะโหนดจะอร่อยมาก พอน้ำเดือดก็ใส่ปลาลงไป จากนั้นชิมพร้อมเสิร์ฟ (สามารถเติมรสชาติได้ตามใจชอบค่ะ)

                สำหรับแหล่งท่องเที่ยวก็เจ๋งตั้งแต่เริ่มแล้ว เช่น ท่าเรือแหลมหยงสตาร์ ที่ถือเป็นท่าเรือที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นท่าเรือที่มีอายุสองพันกว่าปี เมื่อก่อนถูกเรียกว่าตันหยงสตาร์ มีสถานที่ให้สัมผัสแสงอสดุงยามเย็นที่งดงาม ที่งดงามแห่งหนึ่งเลยทีเดียว (แต่ต้องระวังหน่อยเพราะตอนเย็นๆ ยุงจะเยอะมาก แนะนำให้เอายากันยุงไปด้วย)

                นอกจากนี้ยังมีหินหัวช้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นหินก้อนเล็ก ก้อนใหญ่วางเรียงทับซ้อนกันเป็นที่น่าประหลาด หมู่หินดังกล่าวยื่นลงไปในทะเลหินหัวช้างอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแหลมหยงสตาร์ เป็นกลุ่มหินริมทะเลวางเรียงรายกันอยู่

บางก้อนมีลักษณะคล้ายหัวช้างจึงเป็นที่มา หินหัวช้าง ชาวบ้านแถบนี้มีความเชื่อว่า มีทวดศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่ตามหมู่หินเหล่านี้ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมาเก็บภาพธรรมชาติที่หินหัวช้างนี้อยู่ไม่ไกลจากแหลมหยงสตาร์มากนัก มีทางแยกจากถนนลาดยาง ห่างจากท่าเรือบ้านทุ่งรวงทองประมาณ 500 เมตร บริเวณนี้มีกุ้ง หอย ปู ปลา ชุกชุมมาก โดยเฉพาะหอยนางรม หอยแครง

                สำหรับสถานที่เที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของชุมชนแหลมหยงสตาร์ คือ สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ มันคือสิ่งมหัศจรรรย์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ไม่ง่ายเลย เพราะการจะเห็นสันหลักมังกรหรือทะเลแหวกนั้นมีเวลาของมัน 1 เดือนจะเห็นได้แค่ 4 วัน ช่วง 15 ค่ำหรือ 8 ค่ำ ถึงจะเห็น แต่ 30 ค่ำจะไม่เห็นแล้ว มีระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากจังหวัดสตูลสู่ทะเลตรัง

                ทั้งนี้ทะเลตรังมีอยู่ 6 ตัวด้วนกัน 1. สันหลังมังกรเหลือง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล 2. สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ ตั้งอยู่ในหมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง 3. สันหลังมังกรนิล ตั้งอยู่ในพื้นที่ 4 บ้านตะเสะ ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง 4. สันหลังมังกรหยก  ตั้งอยู่หมู่ 1 บ้านเสียมไหม ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง 5. สันหลังมังกรทับทิมสยาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านหาดทรายทอง ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง และ 6. “สันหลังมังกรเผือก” ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเถอกันตัง จังหวัดตรัง

                สำหรับใครที่สนใจอยากมาเที่ยวที่นี้และห่วงเรื่องที่พักสามารถติดต่อที่ ริมเลโฮมสเตย์ ราคาอยู่ที่ 1,000 - 1,500 บาท โดยแต่เดิมที่ตรงนี้เป็นพื้นที่บ่อกุ้งเก่า แล้วมาเปลี่ยนแปลงสภาพบ่อเลี้ยงกุ้งเป็นบ้านพักส่วนตัว และเหลือพื้นที่ว่างๆ ได้มีแนวคิดจัดทำโฮมสเตย์ขึ้นมา โดยที่พักแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบาย บรรยากาศดีสงบเหมาะกับการมาพักผ่อนเป็นอย่างดี และเป็นที่ชื่นชอบของชาวไทย ชาวต่างชาติ เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวมาพักที่นี่ จะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองเป็นแน่นอน

วันนี้ได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ประหยัด หยงสตาร์ ผู้ใหญ่ใจดีติดดินที่ให้ความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว รับหน้าที่เป็นไกด์พาเราไปสัมผัสกับการพักผ่อนแบบสบายๆ ของ "ริมเลโฮมสเตย์" ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งการต้อนรับและให้ความอบอุ่นอย่างที่คุณคาดไม่ถึงกับมิตรภาพของชาวแหลมหยงสตาร์