กระบะโฟวิล นำคณะ สมาชิกกิ่งกาชาด อ.สังขละบุรี เข้าปฏิบัติภารกิจกลางป่าทุ่งใหญ่ เกิดเสียหลักพลิกค่ำ เจ็บ 1 เหตุ ถนนลาดชันและลื่น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รีบปรับถนน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ ครั้งนี้โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต
นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เวลา 15.30 น. ของวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบยกสูง เสียหลักพลิกคว่ำทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบนเส้นทางหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง - น้ำตกสะละวะ ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่กลางป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตนจึงเดินทางไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงพบรถยนต์กระบะโฟวิลขับเคลื่อน 4 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน รษ 2840 กทม. อยู่ในสภาพพลิกตะแคงขวา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกระดูกไหปลาร้าหัก เป็นหญิง 1 ราย ซึ่งหญิงที่ได้รับบาดเจ็บคนดังกล่าวนั้น เป็นสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสังขละบุรี ส่วนคนขับและผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่นั่งมาด้วยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี อส.อ.สังขละบุรี ครูโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาห้องเรียนพิเศษสาละวะ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ระดมกำลังช่วยกันกู้รถขึ้นมา แล้วเคลื่อนย้ายหลบไปริมทาง เพื่อไม่ให้กีดขวางเส้นทางการจราจร
จากการสอบถามทราบว่า รถคันดังกล่าวได้นำคณะเจ้าหน้าที่อำเภอสังขละบุรีเดินทางมุ่งหน้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาห้องเรียนพิเศษสาละวะ หมู่ 4 ต.ไล่โว่ เมื่อผ่านหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง มาได้ประมาณ 2 กม. รถเกิดเสียหลักลื่นไถลก่อนพลิกคว่ำ
ซึ่งสาเหตุมาจากถนนซึ่งเป็นดินโคลน ลื่น ประกอบกับเป็นทางลาดชัน อีกทั้งก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมาในพื้นที่ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา เปิดเผยต่อว่า สำหรับเส้นทางจากตัวอำเภอสังขละบุรี - โรงเรียนฯ รวมระยะทางประมาณ 30 กม.เศษ ซึ่งปกติจะต้องใช้เวลาในการเดินทางกว่า 2 ชม. และจะอันตรายมากช่วงเส้นทางระหว่างหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง-น้ำตกสะละวะ
เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางป่าเขา ที่ยากลำบาก มีลักษณะขึ้นลงเขาลาดชัน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีผู้เสียชีวิตจากเส้นทางดังกล่าวมาแล้ว
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พยายามเรียกร้องให้มีการปรับปรุงเส้นทางให้มีความสะดวกปลอดภัยมากขึ้น เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุอันจะนำมาซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด