วันนี้ (11 มิ.ย.62) มีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อเวลา 13.35 น. นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เชิญพานพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เข้าสู่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีหัวหน้าพรรคการเมืองและผู้แทนพรรคการเมือง เข้าร่วมเป็นเกียรติ จากนั้นพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำพิธีรับพระบรมราชโองการฯ โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เข้าร่วมในพิธีด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินเข้าไปยังห้องสีม่วง และกล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและกล่าวขอบคุณ ว่า
“ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ผมและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ
ผมขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงาน พร้อมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และการที่มีเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี จะสร้างสรรค์สังคมให้มีความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาส ทั้งนี้ก็เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย
ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาในการทำหน้าที่ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ที่สนับสนุน และให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่ อย่างที่ทุกคนคาดหวังตั้งใจไว้ ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคประชาสังคม ธุรกิจ เอกชน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะร่วมกันเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล และพวกเราทั้งหมด เพื่อจะนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป”