วันนี้ (11 มิถุนายน 2562) ที่สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการนำแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมาใช้ในระบบบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ภายในปี 2565 ตั้งเป้าให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์แผนไทยร้อยละ 20 โดยเปิดบริการตรวจรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยคู่ขนานในโรงพยาบาลทุกระดับ รวมทั้งจะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้ 3.6 แสนล้านบาท ช่วยสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้เป็นสินค้านวัตกรรม เพิ่มโอกาสแข่งขันในตลาดโลก เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการภายในประเทศ
โดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เป็นต้นแบบเมืองสมุนไพรของประเทศ ได้พัฒนาสถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ แบบผสมผสานด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ปัจจุบัน ให้บริการคลินิกกลุ่มโรคเฉพาะทางด้านการแพทย์แผนไทย เช่น โรคที่มีอาการปวด ข้อยึดติด อัมพฤกษ์ อัมพาต ออฟฟิศซินโดรม โรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อและข้อ พาร์กินสัน และสะเก็ดเงิน การฟื้นฟูมารดาหลังคลอดโดยหัตถการ เช่น นวดไทย นวดน้ำมันกระดูกไก่ดำ ประคบสมุนไพร พอกยา เผายา ย่างยา เริ่มทดลองเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้ารับการรักษาในคลินิกกลุ่มโรคเฉพาะทาง และมารดาหลังคลอด จำนวนถึง 193 ราย
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าให้เป็นแหล่งพัฒนายกระดับงานวิจัยการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร อาทิ การนวดแก้ไมเกรนกับเส้นประธานสิบ ยาสมุนไพรตำรับกลีบบัวแดงบำรุงสมอง มะระขี้นกช่วยลดน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน รวมทั้งเป็นแหล่งศึกษาดูงาน ฝึกประสบการณ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรระดับประเทศและนานาชาติ โดยตั้งแต่ตุลาคม 2561 - มีนาคม 2562 มีผู้เข้าศึกษาดูงานจำนวนมาก อาทิ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะนักศึกษาพยาบาลบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Bastyr University ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น