ถิรไทย หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมด้านพลังงานรายใหญ่ของประเทศ ส่งบริษัทในเครือ "TRT E&S" รับงานประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในสัญญาซื้อขาย "รถขุดเจาะ (4x4)" จำนวน 41 คัน มูลค่าโครงการ 320 ล้านบาท เริ่มทยอยส่งมอบรถขุดเจาะในปี 2563 แล้วเสร็จในปี 2564 เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาระบบ และขยายโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย อี แอนด์ เอส จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมด้านเกี่ยวกับพลังงานรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. ในสัญญาซื้อขาย รถขุดเจาะ (4x4) จำนวน 41 คัน เลขที่ สต.019-2562 ซึ่งเป็นการจัดซื้อรถขุดเจาะเพื่อทดแทนของเดิม โดยคณะกรรมการ กฟภ. มีมติอนุมัติซื้อ จากบริษัท ถิรไทย อี แอนด์ เอส จำกัด หรือ TRT E&S ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.ถิรไทย ด้วยวงเงิน 319,592,950 ล้านบาท ซึ่งผลิตภัณฑ์ รถขุดเจาะ ที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลจะเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ขับเคลื่อนแบบ 4x4 ยี่ห้อ SCANIA รุ่น P360B4x4HZ จากบริษัทผู้ผลิต SCANIA CV AB ประเทศสวีเดน และชุดปั้นจั่นขุดเจาะไฮดรอลิค ยี่ห้อ Terex รุ่น CMDR 4047 บริษัทผู้ผลิต Terex Utilities จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับจากวงการทั่วโลก

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำหนดส่งมอบงาน นับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญาซื้อขาย และภายในงวดสามารถทยอยการจัดส่งได้ ทั้งหมด 5 งวด โดยแบ่งเป็นงวดที่ 1 ถึงงวดที่ 4 จำนวนงวดละ 8 คัน และในงวดสุดท้าย จำวน 9 คัน กำหนดส่งมอบแล้วเสร็จภายในเดือน มกราคม 2564 โดยกำหนดรับประกันคุณภาพ เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ กฟภ. รับมอบรถยนต์ไว้ใช้งาน

นายสัมพันธ์ กล่าวต่ออีกไปว่า ช่วงที่ผ่านมา "TRT E&S" ได้มีการผลิตและส่งมอบรถขุดเจาะ ให้แก่ กฟภ. ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 40 คัน นับตั้งแต่ปี 2556 และมีการส่งมอบแล้วเสร็จในปี 2559 ด้วยมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 340 ล้านบาท และในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจาก กฟภ. ให้เข้าร่วมประกวดราคา ซึ่งเป็นการจัดซื้อรถขุดเจาะเพื่อทดแทนของเดิม ตามแผนงานสนับสนุนการดำเนินงาน ระยะที่ 3 และ 4 ตามลำดับ

"ซึ่งในปี 2562 นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า หรือ Non-Transformer Group ยังมีการเข้าร่วมประมูลงานต่าง ๆ อีกประมาณ 1,857 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า TRT E&S จะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 15%-20% ประมาณการส่งมอบในปี 2562-2563 อีกด้วย" นายสัมพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย