ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
หารือ“ประกันภัย”การเกษตรครอบคลุมทุกชนิด
19 มิ.ย. 2562

สศก.บุกหารือ 2 หน่วยงาน หวังคลอดการทำประกันภัยครอบคลุมการเกษตรทุกชนิด ลดภาระงบ-แก้ความซ้ำซ้อนรัฐแจกเงินช่วยเหลือเกษตรกรประสบภัยพิบัติ ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 2 หมื่นบาท

นางสาวจริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเจรจาและหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการขับเคลื่อนนโยบายการปฏิรูปประกันภัยการเกษตร เพื่อขยายโครงการประกันภัยให้ครอบคลุมการเกษตรทุกชนิด จะทำให้ลดความซ้ำซ้อนในการช่วยเหลือเกษตรกร จากสถิติความเสียหายจากภัยพิบัติที่รัฐบาลต้องจ่ายชดเชยเยียวยาในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท และหากมีบริษัทประกันภัยมาช่วย จะทำให้เกษตรกรได้เงินเร็วขึ้นด้วย ในสัดส่วนความเสียหายจ่ายแบบรายแปลง โดยเฉพาะความเสียหายจากภัยแล้ง น้ำท่วม ลมพายุ ลูกเห็บตก โรคระบาดเพลี้ยและแมลง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมางบประมาณช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วม ภัยแล้งของรัฐบาล จากปี 2551-2554 เป็นวงเงิน 50,281 ล้านบาท ปี 2554-2557 เป็นวงเงิน 89,777 ล้านบาท ปี 2557-2561 เป็นวงเงิน 18,574 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อย่างไรก็ตาม อาจต้องจ้างบริษัทเซเวเยอร์ตรวจสอบ ที่เป็นบริษัทกลาง หรือใช้บริษัทประกันภัยเข้าไปตรวจสอบ โดยกำหนดสัดส่วนความเสียหายที่ต้องจ่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอความเสียหายถึง 80% ภาครัฐจึงจะใช้งบประมาณรัฐชดเชยความเสียหายได้ ดังนั้น ต้องพัฒนาระบบการตรวจสอบพื้นที่เสียหายซึ่งยังใช้เวลาหลายปี

ในส่วนทางเลือกที่ 2 สามารถประเมินความเสียหายตามรายแปลง ต้องให้เกษตรกรสมัครใจเข้ามาทำประกันภัยโดยไปประเมินจ่ายรายแปลง อาจจะไม่ต้องมีการประกาศ แต่จะต้องเสียค่ารถจักรยานยนต์เข้าไปตรวจสอบ

“กำลังคิด 2 ทางเลือกก่อน โดย ธ.ก.ส.จะเป็นตัวกลางคุยกับบริษัทประกันภัย หากดึงทุกพืช ทุกสินค้าปศุสัตว์เข้าร่วมโครงการจะส่งผลทำให้เบี้ยประกันถูกลง ที่สำคัญช่วยลดภาระงบประมาณรัฐ ทั้งนี้เมื่อมีการปรับเปลี่ยนระบบการให้ความช่วยเหลือในระบบเดิมเข้าสู่ระบบประกันภัย ควรยกเลิกการให้ความช่วยเหลือเยียวยาในระบบเดิมเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน “เลขาธิการ สศก. กล่าว

สำหรับปัจจุบันภาครัฐได้ดำเนินการประกันภัยในสินค้าเกษตรเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ประกันภัยข้าวนาปี ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังมีประกันภัยที่ดำเนินการโดยบริษัทประกันภัยกับเกษตรกรโดยตรง เช่น ทุเรียน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ เช่น คปภ. และ ธ.ก.ส. ได้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการประกันภัยสินค้าชนิดอื่นๆ เช่น โคนม มันสำปะหลัง กุ้ง ซึ่งการชดเชยและการให้ความช่วยเหลือ ในรูปการประกันภัยพืชผล เป็นการคุ้มครองความเสียหายหรือสูญเสียต่อพืชผลที่เอาประกันภัย อันเกิดจากภัยธรรมชาติตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยอาจกำหนดให้คุ้มครองภัยทุกชนิด หรืออาจกำหนดให้คุ้มครองจากภัยพิบัติบางอย่างโดยเฉพาะ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ลมพายุ ลูกเห็บตก ขึ้นอยู่กับพื้นที่และชนิดของพืชที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแตกต่างกัน

ทั้งนี้ การประกันภัยพืชผลจะกำหนดระยะเวลาคุ้มครองไว้ล่วงหน้า โดยระยะเวลาคุ้มครองนี้จะตรงกับช่วงระยะเวลาเพาะปลูกของพืชแต่ละชนิด ดังนั้นการทำประกันภัยจึงต้องทำก่อนเริ่มระยะเวลาเพาะปลูกของพืชแต่ละชนิด จะเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ใช้เป็นเครื่องมือช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดระบบการเงิน เพื่อคุ้มครองต้นทุนการผลิตเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ คุ้มครองปริมาณผลผลิตที่ลดต่ำลง และคุ้มครองราคาผลผลิตที่ผันผวน ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพทางรายได้และความมั่นคงในอาชีพให้แก่เกษตรกร

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...