นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำคณะ ประกอบด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ดร.รัชดา ธนาดิเรก นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรค นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ดร.ศุภชัย ศรีหล้า นายวุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลรสชธานี นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรค นายธนน เวชกรกานนท์ นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคพร้อมทีมงาน ลงพื้นที่พบปะตัวแทนเกษตรกร และผู้ประกอบการมันสำปะหลัง เพื่อรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ และติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลัง ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลไชยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ทันทีที่คณะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางถึงที่นัดหมาย พี่น้องประชาชนเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ต้อนรับด้วยความอบอุ่น ทั้งเข้ามากอด มอบดอกไม้ ผูกผ้าขาวม้า โดยนายจุรินทร์ ให้การทักทาย พูดคุยกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับอย่างใกล้ชิดและเป็นเอง
นอกจากนี้ยังมีคณะนางรำจากโรงเรียนผู้สูงอายุ ต.ไชยมงคล อ.เมือง รอรำต้อนรับ คณะของพรรคประชาธิปัตย์บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้นและอบอุ่นมาก
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอ ว่าตั้งใจมาพบเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกมันสำปะหลังมากที่สุดในประเทศ ซึ่งวันนี้จะได้แลกเปลี่ยน และรับฟังข้อเสนอแนะ จากเกษตรกร รวมทั้งตัวแทนสมาคมมันสำปะหลัง ผู้ประกอบการโรงมัน ผู้ประกอบการแปรรูปผลิตพันธุ์มันสำปะหลัง ผู้ประกอบการส่งออกมันสำปะหลัง และตัวแทนเกษตรกรจาก 49 จังหวัดทั่วประเทศด้วย
ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้มารับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบกับข้อมูลเดิมที่มีอยู่ และจะได้แลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกันเพื่อที่จะให้ทั้ง 4 องคาพยพ คือ 1.ชาวไร่มันสำปะหลัง 2.ผู้ประกอบการลานมัน 3.ผู้ประกอบการโรงมัน และ 4.ผู้ส่งออกมันสำปะหลังสามารถอยู่ร่วมกันได้
“ทั้งหมดต้องอยู่ได้ เกษตรกรต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้ง 4 องคาพยพก็ต้องมีรายได้ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจโดยใช้มันสำปะหลังเป็นฐาน สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่าแนวทางที่เตรียมไว้คือ นโยบายการประกันรายได้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง เพื่อให้เกษตรกรที่ผลิตมันสำปะหลังที่มีคุณภาพ สามารถมีรายได้มีหลักประกันว่าจะสามารถขายมันสำปะหลังได้กี่โลละเท่าไหร่
นอกจากการประกันรายได้แล้ว จะต้องมีการส่งเสริมให้มีการใช้มันสำปะหลังในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการทำเกษตรพันธสัญญา กล่าวคือ เกษตรแปลงใหญ่ที่รวมตัวกันปลูกและบริหารจัดการร่วมกัน โดยจะมีการทำสัญญาข้อตกลงกับผู้ใช้มันสำปะหลัง ว่าจะรับซื้อใน ปริมาณ คุณภาพ ราคา เท่าไหร่
และอีกประการคือต้องส่งเสริมการขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังไทยไปทั่วโลก นอกจาก จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ดังนั้นต้องส่งเสริมการขยายตลาดการส่งออกใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ภายหลังการพบปะแลกเปลี่ยน รับฟังความเห็น ข้อเสนอแนะ จากทั้ง 4 องคาพยพ นายจุรินทร์ นำคณะ เดินสำรวจแปลงมันสำปะหลังทันที พร้อมสอบถามและรับฟังการสะท้อนปัญหาจากเกษตรการชาวไร่มันสำปะหลังอย่างใกล้ชิด