นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้จัดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ในวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2562 ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่ผ่านมา โดยจับมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและเมียนมา อาทิ หอการค้าเมียวดี สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐกระเหรี่ยง ด่านศุลกากรเมียวดี ด่านตรวจคนเข้าเมืองเมียวดี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าการลงทุนพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยนำผู้ประกอบการทั้งไทยและเมียนมา จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าดาวเด่นของทั้ง 2 ประเทศ (Country Pavilion) รวมกว่า 150 คูหา ในหมวดสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพและความงาม แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และเครื่องใช้ภายในบ้าน ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า เพิ่มโอกาสในการขยายตลาดส่งออก ช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดนของทั้ง 2 ประเทศได้เพิ่มขึ้น

         นออกจากนี้การจัดงานครั้งนี้ยังได้มีการเจรจาธุรกิจการค้าอีกจำนวน 20 คู่ โดยเกิดการซื้อขายทันที 40 บริษัท คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,800,000 บาท และคาดว่าจะเกิุดการขยายตัวทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดนเพิ่มขึ้น อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตและคาดว่าตลอดทั้งงานจะสามารถสร้างคู่ค้าทางธรกิจที่คาดไว้

        "จังหวัดตาก เป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองการค้าที่สำคัญของเมียนมา โดยจังหวัดตากมีมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมาสูงเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณร้อยละ 40 และเป็นจังหวัดที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจัดตั้งให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมาก และมีด่านการค้าเชื่อมต่อกับประเทศเมียนมา ซึ่งเอื้อต่อการค้าชายแดนและการลงทุนเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ในครั้งนี้ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว ในจังหวัดตาก ให้เกิดความคักคักได้เป็นอย่างดี" นายบุณยฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า

          โดยสถิติการค้าชายแดนในปี 2561 พบว่ามีมูลค่าการค้ารวมสูงถึง 77,961.71 ล้านบาท เป็นการส่งออก 71,935.15 ล้านบาท และนำเข้า 212.14 ล้านบาท และมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ผ้าผืนและด้าย เป็นต้น สำหรับสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ โค กระบือ สุกร แพะ แกะ พืชน้ำมันและผลิตภัณฑ์ เครื่องพักกระแสไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งในงานได้จัดงานสัมมนาโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทางการค้าจากภาครัฐและเอกชน ในหัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่ ความสำคัญและสถานการณ์การค้าชายแดนบริเวณ อ.แม่สอด และเมืองเมียวดี เพื่อเป็นแนวทางในการขยายตลาดการค้าชายแดนระหว่างไทย - เมียนมา “การสร้างผลลัพธ์ธุรกิจ กับบรรจุภัณฑ์และการตลาดดิจิทัล” เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการค้าชายแดนของไทยทั้ง SMEs และ Start up ให้สามารถสร้างแต้มต่อ พัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคนิคทางการตลาด อีกทั้ง