ดีอี ปลื้ม ครม.ไฟเขียวการเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด หนุนเสริมการใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนในทุกภาคส่วน เปิดทางผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายย่อยต่อยอดการให้บริการดิจิทัลในท้องถิ่น เสริมศักยภาพเศรษฐกิจและสังคมหมู่บ้านเป้าหมาย 24,700 แห่งทั่วประเทศ

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า การเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของหมู่บ้านเป้าหมาย 24,700 แห่ง ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ การศึกษา การสาธารณสุข การเกษตร การค้าขายออนไลน์ ฯลฯ ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อันนำไปสู่การเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป

ทั้งนี้ โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโครงการ “เน็ตประชารัฐ” มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่สามารถเปิดให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเชื่อมต่อเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตปลายทาง (Last Mile Access) ไปยังทุกภาคส่วนในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ บ้านเรือนประชาชน และสถานประกอบการ ดังนั้น การเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด จะช่วยต่อยอดให้เกิดการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเน็ตประชารัฐให้กับประชาชนทุกภาคส่วน

 “ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ได้แก่ การใช้งานโครงข่ายโทรคมนาคมภายใต้โครงการเน็ตประชารัฐจะมีประสิทธิภาพและกว้างขวางยิ่งขึ้น คุ้มค่าแก่การลงทุนของภาครัฐที่ได้ลงทุนไว้ ส่งเสริมการบูรณาการการใช้ทรัพยากรสื่อสาร ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล” ดร. พิเชฐ กล่าว

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการแข่งขันในตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ในส่วนบริการปลายทาง (Last Mile) เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายย่อยต่อยอดการให้บริการดิจิทัลในท้องถิ่น เป็นการสร้างงานในท้องถิ่น และสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนในการเข้าถึงบริการต่างๆ ของภาครัฐ ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันอันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกทั้งลดต้นทุนในการคิดอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ตกับประชาชน เพื่อให้บริการแก่ทุกภาคส่วน เนื่องจากโครงข่ายหลัก รัฐบาลได้ลงทุนไว้พร้อมใช้แล้ว

สำหรับโครงการเน็ตประชารัฐ เป็นภารกิจที่กระทรวงดิจิทัลฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินงานโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กิจกรรมที่ 1 เป็นการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ โดย บมจ.ทีโอที ได้ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) พร้อมจัดให้มีจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wi-Fi) โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายกับผู้ใช้บริการ หมู่บ้านละ 1 จุดให้บริการ ที่ระดับความเร็วไม่ต่ำกว่า 30 Mbps/10 Mbps (Download/Upload) ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมาย 24,700 หมู่บ้าน การติดตั้งแล้วเสร็จตั้งแต่ ธันวาคม 2560 และทำการบำรุงรักษาและให้บริการ Wi-Fi กับประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านเน็ตประชารัฐ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงการดำเนินโครงการเชื่อมต่อเน็ตประชารัฐ ว่า จากการที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงดีอีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่หมู่บ้านที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต โดยได้ทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในหมู่บ้าน 24,700 แห่ง แล้วเสร็จตั้งแต่ปลายปี 2560 ซึ่งให้บริการ Wi-Fi ยังจุดที่หมู่บ้านแต่ละแห่งกำหนดไว้ ทั้งนี้เมื่อประชาชนใช้บริการอินเทอร์เน็ตของหมู่บ้านแล้ว จึงสนใจที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยังบ้านของตนเองมากขึ้น ดังนั้นจึงเกิดโครงการเชื่อมต่อเน็ตประชารัฐเปิดให้ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตเดิม และผู้ประกอบการในท้องถิ่นต่างๆ เข้ามาร่วมให้บริการในราคาที่ถูกกว่าร้อยละ 30-40

ล่าสุดอยู่ระหว่างการเร่งทำร่างสัญญากับผู้ประกอบการ 7 ราย ที่มีทั้งผู้ประกอบการรายเดิม และในพื้นที่ท้องถิ่นได้ยื่นขอให้บริการไว้ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 60 วันจึงสามารถให้บริการเชื่อมต่อสัญญาณได้

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจยื่นให้บริการ ให้แจ้งมายังกระทรวงดีอีเพื่อเปิดรับคำขอและตรวจสอบจุดการให้บริการของเน็ตประชารัฐ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานในหมู่บ้านแล้วเกือบ 6 ล้านคน โดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดังกล่าวมุ่งให้ประชาชนได้เข้าถึงการให้บริการและเสริมสร้างความรู้ทั้งเรื่องของราคาพืชผลการเกษตร และการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ