นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 ว่าโรงพยาบาลกมลาไสยมียาเพียงพอสำหรับรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ ในส่วนผู้ป่วยที่ออกมาบอกว่ามีปัญหาการขาดยานั้น จะได้ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 ลงพื้นที่ติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรังเป็นรายบุคคล รวมทั้งให้โรงพยาบาลจัดทำแผนการจัดซื้อยาระยะสั้นและระยะยาวให้เพียงพอในการรักษา กรณีข้อร้องเรียนสงสัยมีการทุจริตจัดซื้อยาได้มีการดำเนินการเก็บเอกสารหลักฐานตั้งแต่ต้นปี 2562 ขณะนี้อยู่ระหว่างแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบว่ามีการกระทำผิดจะลงโทษทางวินัยและอาญาขั้นเด็ดขาด
“ผมมั่นใจว่า โรงพยาบาลมีความพร้อม มียาเพียงพอ สำหรับผู้ป่วยทุกคน หากผู้ป่วยยาหมดควรกลับมาปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อขอรับยาเพิ่ม ไม่ควรยืมยากันเอง เพราะจะเกิดอันตราย ยาที่ยืมนั้นอาจไม่ตรงกับโรค หรือเป็นยาเก่าที่หมดอายุ”
ด้านนายแพทย์อิทธิพล สูงเเข็ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่กับสาธารณสุขนิเทศก์ มีนโยบาย สั่งการให้ โรงพยาบาลทั้ง 77 แห่งในเขตสุขภาพต้องมียาเพียงพอต่อการให้บริการประชาชน กรณีโรงพยาบาลกมลาไสย ได้มีแผนการดำเนินการดังนี้ 1.ให้โรงพยาบาลกมลาไสยจัดซื้อยา หากยาตัวใดที่ไม่สามารถจัดซื้อเองได้ เบื้องต้นให้ยืมจากโรงพยาบาลแม่ข่าย 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลสมเด็จ และโรงพยาบาลยางตลาด 2.ให้โรงพยาบาลกมลาไสยดำเนินการจัดซื้อยาตามระเบียบพัสดุ โดยด่วนเพื่อนำยาไปใช้คืนให้แก่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์และเครือข่าย เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาการจัดซื้อยา
“ในส่วนกระบวนการตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อที่มีปัญหาจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1-2เดือน พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอสม. ตรวจสอบในเรื่องการขาดยา ว่าไม่ได้รับความสะดวกในเรื่องใด ซึ่งมีข้อมูลผู้ป่วยโรคเรื้อรังทุกคนอยู่แล้ว”