นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมแนวทางในการแก้ไขปัญหาของกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมี นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม นางสาวดุจดาว เจริญผล และนายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมในการประชุม วันที่ 22 สิงหาคม 2562 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการติดตามงาน และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามที่ได้มอบนโยบายไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ประกอบด้วย 1. การศึกษา และจัดทำแผนแก้ปัญหาด่านเก็บเงินทางพิเศษ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) ให้รถสามารถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ลดความแออัดของรถที่หน้าด่าน ซึ่งได้มอบแนวทางการดำเนินงานโดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ

ระยะเร่งด่วน - ช่อง Easy Pass /M Pass มีแนวทางให้ดำเนินการยกไม้กั้นในช่วงเวลาเร่งด่วน และจัดหาเจ้าหน้าที่ประจำช่องทางเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันปัญหารถฝ่าด่าน

- ช่องเงินสด จัดจ้างบุคคลภายนอกประมาณ 10 คน เพื่อจำหน่ายคูปองเงินสดรถที่รอต่อคิวในช่วงเวลาเร่งด่วน

ระยะยาว ให้นำกล้องวงจรปิดมาใช้และบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยอย่างยั่งยืน

2. แนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษทุกประเภท (ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โทลล์เวย์) เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน โดยการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้น ต้องไม่นำภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาอุดหนุน หากโครงการใดมีการร่วมทุนกับเอกชนให้ไปพิจารณาศึกษารายได้ในอนาคต ว่ามีวิธีนำรายได้ในอนาคตมาใช้ได้อย่างไรและเมื่อสิ้นสุดสัญญาจะทำอย่างไรเพื่อชดเชยการสูญเสีย โดยต้องดูตัวเลขให้ชัดเจน ต้องสามารถอธิบาย ตอบคำถาม และตรวจสอบได้

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำนโยบายเรื่องความปลอดภัย ต้องมีการซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และเฝ้าระวังการเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของการทำสัญญากับเอกชน ขอให้พิจารณาสัญญาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตอีกต่อไป

“ได้เสนอให้กลับมาขายคูปองหน้าด่านในส่วนของช่องเงินสด เลนละ10 คน โดยอาจจะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่มีความพร้อม  ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทำไปแล้วโดยก็ถือว่าได้ผลดี อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการฝึกซ้อมเรื่องความปลอดภัย และผู้ยืนขายคูปองจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงอุปกรณ์เสื้อสะท้อนแสงจุดเหมาะสมที่ยืนปฏิบัติการ โดยจะใช้วิธีการนี้ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 06.00-09.00น. และ15.00-19.00น. ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการมอบหมายทั้งมอเตอร์เวย์ และทางด่วนพิเศษรับไปดำเนินการ นอกจากนี้ ในระยะยาวจะใช้ระบบนวัตกรรม AI ในการบริหารจัดการเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งในส่วนของผู้ใช้บริการผ่านบัตรเดบิตจะได้ส่วนลดมากกว่าผู้ใช้บริการบัตรเครดิต”

 ทั้งนี้ ในส่วนของระบบ AI นั้น ภายในปีนี้รายละเอียดโครงการต้องเสร็จทั้งเรื่องทีโออาร์ รูปแบบต่างๆ และฝากให้ดูเรื่องการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยต่อไปจะต้องพิจารณาเรื่องของการคำนวณค่าผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) ด้วย เนื่องจากหากเปลี่ยนมาใช้ระบบ AI แล้วต้นทุนจะต้องลดลง นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายเรื่องการก่อสร้างโครงการทั้งหมดว่า จะต้องตรวจสอบเรื่องของความปลอดภัย โดยเฉพาะการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีโครงการที่จังหวัดภูเก็ตเจาะอุโมงค์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และในส่วนของข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดจะต้องสรุปให้เรียบร้อยก่อนจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายศักดิ์สยาม กล่าว