คมนาคม-บอร์ด ขสมก.เคาะรื้อแผนจัดหารถเมล์ NGV 3,184 คัน 1.3 หมื่นล้าน เตรียมชง ครม.เคาะใน มี.ค.-เม.ย.นี้ ลดจำนวน NGV แบ่งงบปรับปรุงรถเก่า 671 คันก่อน ส่วนประมูล NGV 489 คัน คาดทีโออาร์เสร็จ มี.ค.นี้ ขณะที่ซื้อรถเมล์ไฟฟ้านำร่อง 200 คัน รอประมวลข้อมูลร่วมกับ กฟน.และ ก.พลังงานก่อนสรุปแผน

          นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งมี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นางปราณี ศุกระศร บอร์ด ขสมก. นายสุระชัย เอี่ยมวชิรกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.คนใหม่ พร้อมด้วยนายดรุณ แสงฉาย รองปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการองค์การ

          นายออมสินกล่าวว่า ได้ให้นโยบายในการเร่งรัดโครงการซ่อมบำรุงรถโดยสารเก่า, การจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) และการเช่ารถเมล์ไฟฟ้า ซึ่ง ขสมก.จะต้องปรับแผนโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาทใหม่ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ 1. ปรับปรุงซ่อมแซมรถเก่า (overhaul) จำนวน 671 คัน 2. การจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน 3. การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 200 คัน ภายใต้กรอบวงเงินเดิม โดยจะรวบรวมรายละเอียดในแต่ละเรื่องเสนอกระทรวงคมนาคมได้ในเดือน มี.ค. เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

          ทั้งนี้ เห็นว่าการปรับปรุงรถเก่าสามารถทำได้เร็วที่สุด โดยจะใช้หลายอู่กระจายกันทำ ใช้เวลาปรับปรุงคันละประมาณ 40 วัน หลังปรับปรุงรถจะใช้งานต่ออีก 10-15 ปี ขณะที่การจัดซื้อรถเมล์ NGV อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเดือน มี.ค. จากนั้นจะเสนอบอร์ด ขสมก.เพื่อออกประกาศประมูลได้ประมาณ เม.ย.-พ.ค. ส่วนรถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งจ้างทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ศึกษา แต่เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่นิ่งพอที่จะตัดสินใจ ประกอบกับมีการศึกษาในหลายหน่วยงาน เช่น การไฟฟ้านครหลวง และกระทรวงพลังงาน จึงเห็นว่าควรนำข้อมูลแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกันเพื่อความครบถ้วน

          “มติ ครม.เดิมให้ซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน แต่เมื่อติดขัด และการปรับปรุงรถเก่ามีความรวดเร็วกว่าจะปรับแผนใหม่ ภายใต้กรอบวงเงินเดิม จึงต้องประมวลเรื่องเสนอ ครม.พิจารณาใหม่ พร้อมกันนี้ ได้ให้ ขสมก.พิจารณาโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะนำร่อง 9-12 จุด เช่น หมอชิต, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ก่อนภายใน ก.ค.-ส.ค.นี้ ที่จะขยายไปทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าป้ายดังกล่าวมีรถเมล์สายใดผ่านบ้างและจะมาถึงภายในกี่นาที” นายออมสินกล่าว

          พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ด ขสมก.กล่าวว่า ในส่วนของการเช่ารถเมล์ไฟฟ้ารูปแบบ PBC จำนวน 20 คันนั้น จะเป็นการนำร่องเพื่อทดสอบเรื่องคุณภาพ และความคุ้มค่า ก่อนจะตัดสินใจจัดซื้อ เนื่องจากขณะนี้ข้อมูลที่มียังไม่เพียงพอที่จะตัดสินใจ ทั้งเรื่องสถานีเติมไฟฟ้า ราคาที่ยังสูงกว่ารถทั่วไปถึง 4 เท่า ดังนั้นจะเร่งศึกษาและสรุปเสนอบอร์ดพิจารณาและทำการนำร่องจำนวนหนึ่งก่อน เพื่อตอบโจทย์ที่ยังไม่ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

          นางปราณี ศุกระศร บอร์ด ขสมก. กล่าวว่า ตามแผนจะแบ่งการปรับปรุงรถเก่าเป็น 2 ล็อต โดยล็อตแรก 671 คัน เป็นรถร้อนประมาณ 521 คัน รถปรับอากาศ 150 คัน และล็อตที่ 2 อีกประมาณ 500 คัน ซึ่ง ขสมก.กำลังสรุปค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงรถซึ่งจะมีการติดตั้งระบบ GPS, CCTV 4 จุด ระบบเซ็นเซอร์ที่ประตูอัตโนมัติ วงเงินประมาณ 8.5 แสนบาทต่อคัน แต่หากเพิ่มการปรับปรุงโครงสร้างรถ ระบบไฟหน้า ต่างๆ ค่าปรับปรุงอาจจะเพิ่มขึ้นอีก โดยจะทยอยนำรถเข้าปรับปรุงชุดละ 60 คัน ครบทั้ง 671 คันใน 1 ปี

          อย่างไรก็ตามความล่าช้าในการประมูลรถNGV 3,184 คัน นั้นมาจากปัญหาหลายประการ รวมทั้งมีการร้องเรียนจากเอกชนที่เข้าร่วมประมูล โดยก่อนหน้านี้ นายเค่อนั่ว หลิน ประธานกรรมการบริษัท เบสทรินกรุ๊ป ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.โดยระบุว่า การจัดประมูลนี้มีมากว่า 10 ปีแล้ว กระทั่งต้นปีนี้มีการเปิดประมูลใหม่ มีบริษัทสนใจซื้อซอง 10 กว่าราย ปรากฏว่าเอกสารของทุกบริษัทไม่ผ่าน ต้องเปิดประมูลครั้งที่ 2 บริษัทของตนได้ส่งเอกสารเข้าไปใหม่ ก็ไม่ผ่านอีก จนต้องมาเปิดประมูลเป็นครั้งที่ 3 ครั้งนี้มี บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียล ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยยื่นประมูลมาก่อน เข้ามาประมูลด้วย โดยเสนอราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-auction ผลปรากฏว่า บริษัทของตนเสนอราคารถรวม 498 คันสูงกว่า ช.ทวี เพียงไม่กี่ล้านบาท ทำให้ ช.ทวีชนะการประกวดราคา

          ประธานกรรมการบริษัท เบสทรินกรุ๊ป ยังได้เปิดเผยว่าผลการประกวดราคายังไม่สามารถสรุปได้ เพราะ ขสมก.จะต้องเปิดซองประมูลค่าซ่อมบำรุงรักษารถก่อน เมื่อสอบถามไปยัง ขสมก.ได้รับคำตอบว่า จะเปิดซองของ ช.ทวี ก่อน ถือว่า ไม่มีความยุติธรรม เพราะปกติแล้วจะต้องเปิดซองของทั้ง 2 บริษัท พร้อมๆกัน ตนทำหนังสือถึง ขสมก.ถึงสาเหตุที่ไม่เปิดซองทั้งสองบริษัทพร้อมๆกัน เพื่อที่จะได้ราคาที่ถูกที่สุด จริงอยู่ราคาของตนอาจจะสูงกว่าบริษัทคู่แข่ง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่สามารถลดราคาได้ ต่อรองกันได้ สุดท้าย ขสมก.อ้างว่า ในทีโออาร์ ระบุไว้ว่าจะเปิดซองของบริษัทอื่นไม่ได้ เพราะ ช.ทวี ให้ราคาต่ำสุดนี้คือ สิ่งที่น่าสงสัย โดย เฉพาะสัญญาซ่อมบำรุงมีระยะเวลา 10 ปี ความจริงคณะกรรมการต้องพิจารณาราคาจัดซื้อและซ่อมบำรุงมารวมกันถึงจะถูกต้อง แต่กลับตัดโอกาสไม่ให้เข้าไปต่อรองราคา เรียกเพียงบริษัทเดียวเข้าไป ทั้งที่ได้ทำหนังสือท้วงติงไปแล้ว แต่ ขสมก.กลับนิ่งเฉย

          นายเค่อนั่ว หลิน กล่าวอีกว่า หากแพ้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม จะไม่ติดใจอะไรเลย เพราะประโยชน์จะตกอยู่กับคนไทย ประเทศไทย แม้ตนจะไม่ใช่คนไทย แต่ทำมาหากินอยู่ในเมืองไทยกว่า 14 ปีแล้ว ได้รับความไว้วาง ใจจากนักธุรกิจรถโดยสาร โดยสั่งรถยี่ห้อ SUNLONG เข้ามาวิ่งในเมืองไทยกว่าหมื่นคันแล้ว แต่การประมูลที่ไร้ความเป็นกลาง ขาดความเป็นธรรมแบบนี้ ยอมรับไม่ได้จริงๆ จึงต้องมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองราคาค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 นั้น ขสมก.ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคาอีกรายเข้าร่วมเจรจาต่อรองทำให้การจัดซื้อไม่โปร่งใส และราคาจัดซื้ออาจไม่ใช่ราคาต่ำสุด ผู้ชนะการประกวดราคาได้เสนอข้อมูลคุณสมบัติต่อ ขสมก. โดยระบุว่าดำเนินการประกอบรถโดยสารในประเทศ แต่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าเป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศ จากข้อมูลทั้งหมดอาจเป็นเหตุให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าได้ ล่าสุดทราบว่ามีคณะกรรมการที่แต่งตั้งจากคณะกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ หรือ คตช.จำนวน 2 ท่าน เป็นนักวิชาการด้านขนส่ง เข้ามาสังเกตการณ์ในการประมูลโครงการนี้ลาออกไปแล้ว เนื่องจากทนเห็นสภาพการประมูลที่ไม่โปร่งใสไม่ไหว และไม่อยากมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย จึงขอลาออกไป