กรมวิชาการเกษตรเตือนภัย”หนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศ”ลามเข้าเอเชียแล้ว สั่งด่านตรวจพืชเข้มงวดตรวจสอบหวั่นเล็ดลอดติดเข้ามากับผลผลิต ชี้มะเขือเทศเป็นสิ่งต้องห้ามนำเข้าประเทศ พร้อมวางแผนเชิงรุกออกคำแนะนำป้องกันกำจัดไว้ล่วงหน้าครอบคลุมทั้งในแปลง โรงเรือนผลิตกล้ามะเขือเทศ และจุดรวบรวมผลผลิต
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า หนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศเป็นแมลงศัตรูพืชสำคัญที่สร้างความเสียหายต่อพืชเศรษฐกิจในหลายประเทศ โดยเฉพาะพืชวงศ์มะเขือ มันฝรั่ง พริก ยาสูบ รวมทั้งวงศ์ถั่วและกะหล่ำ ทำให้ผลผลิตลดลงถึง 90% ซึ่งจากสถานการณ์ระบาดเร็ว และสร้างความเสียหายรุนแรงในแหล่งปลูกมะเขือเทศหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้และทวีปยุโรป รวมทั้งเริ่มพบการระบาดของหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศ ในทวีปเอเชียแล้ว ทำให้กรมวิชาการเกษตร ในฐานะองค์กรอารักขาพืชแห่งชาติตามอนุสัญญาว่าด้วยการอารักขาพืชระหว่างประเทศ ต้องเฝ้าระวังโดยสั่งให้ด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตรเฝ้าระวังและตรวจสอบผลผลิต รวมทั้งมะเขือเทศยังเป็นพืชในวงศ์ Solanaceae ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่อนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรมวิชาการเกษตรเตรียมพร้อมรับมือหากมีการแพร่ระบาดของหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศเข้ามาในประเทศ โดยมีคำแนะนำวิธีป้องกันและกำจัด ดังนี้ โรงเรือนผลิตกล้ามะเขือเทศ ใช้วัสดุปลูกที่ปราศจากดักแด้ของหนอนผีเสื้อชอนใบ มะเขือเทศและตรวจหาการทำลายโดยสำรวจร่องรอยการทำลายบนใบและยอดมะเขือเทศ ติดตั้งกับดักฟีโรโมนเพื่อดักจับตัวเต็มวัยเพศผู้ หากตรวจพบผีเสื้อหรือการทำลายของหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศ ให้ป้องกันกำจัดโดยใช้สารกำจัดแมลงตามคำแนะนำคือ สารสไปนีโทแรม 12% SC สารอีมาเมกติน เบนโซเอต 1.92% EC สารคลอร์ฟีนาเพอร์ 10% SC สารลูเฟนนูรอน 5% EC สารอินดอกซาคาร์บ 15% EC สารคลอแรนทรานิลิโพรล ทำความสะอาดโรงเรือน และเก็บเศษซากพืชที่ถูกทำลายเผาหรือฝังในดิน
ส่วนในแปลงปลูกมะเขือเทศ ให้สำรวจประชากรของผีเสื้อหนอนชอนใบมะเขือเทศ ด้วยกับดักฟีโรโมนก่อนปลูก 2 สัปดาห์ ให้ไถพลิกดินหรือไถพรวนเพื่อกำจัดดักแด้ที่อยู่ในดิน ใช้ต้นกล้าที่ปราศจากหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศ หลังปลูกหากพบการทำลายให้ติดกับดักฟีโรโมนดักจับตัวเต็มวัยเพศผู้เพื่อลดประชากรผีเสื้อหนอนชอนใบมะเขือเทศ และพ่นสารกำจัดแมลงชนิดเดียวกับที่แนะนำให้ใช้ในโรงเรือน พ่นทุก 5-7 วัน ติดต่อกัน 2-3 ครั้ง ใช้กลุ่มสารสลับกันอย่างน้อย 2 กลุ่ม ใน 1 รอบวงจรชีวิต (30 วัน) รวมทั้งเว้นระยะไม่ใช้สารกลุ่มเดิมในรอบวงจรชีวิตถัดไป
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวอีกว่า ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตถ้าพบการระบาดให้พ่นสารชีวภัณฑ์ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส สายพันธุ์เคอร์สตากี้ อัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พร้อมทำความสะอาดแปลงปลูก ปลูกพืชที่ไม่ใช่พืชอาศัยเป็นพืชหมุนเวียน จุดรวบรวมผลผลิต และตลาด ให้สำรวจประชากรของหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศด้วยกับดักฟีโรโมนอัตรา 4 กับดักต่อไร่ เก็บผลมะเขือเทศที่มีรอยทำลายของหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศใส่ถุงดำนำไปตากแดดทิ้งไว้ 3-4 วัน พร้อมกันนี้ กรมวิชาการเกษตรเปิดสายด่วนเฝ้าระวังหนอนผีเสื้อชอนใบมะเขือเทศ หากสำรวจพบแปลงมะเขือเทศมีลักษณะการเข้าทำลายดังกล่าวแจ้งที่สายด่วน 0-61415-2517