“กรู รอ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า” ความจริงที่หลายคนรู้ไม่ลึก
ต้องให้เครดิตสำนักข่าว BBC ที่อุตส่าห์ไปขุด ราชกิจจานุเบกษามา ซะละเอียดละออ ผมก็เลยมาบันทึกไว้โดยละม่อม เป็นอุทาหรณ์สอนใจ มันเป็นเรื่องแปลก แต่จริงอิ้บอร๋าย ที่ “ปี้ชวน” ที่นั่งเป็นประธานสภาสมัยที่ 2ในรัชสมัยของรัฐบาลทรราชสืบทอดอำนาจนี้ เป็นผู้รับสนองพระราชโองการ ถอดยศ อ้ายร้อยโท ตุ๋ย ค้าผง ถึง 2 ครั้ง และรับสนองฯคืนยศให้อีก 1 ครั้ง โดยไม่มีนายกฯคนไหนได้เสือกเลย มันช่างจุติมาเพื่อสมพงษ์กันดีแท้น้อ
ปี พ.ศ. 2532 มนัส จบนายร้อย จปร รุ่น36 เป็นรอง ผบ. กรมมหาดเล็กรักษาพระองค์ ยศว่าที่ร้อยตรี
ปีพ.ศ.2534 แค่ 2 ปีต่อมา ถูกปลดออกจากราชการ ฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในยุค พลเอก วันชัย เรืองตระกูล เป็นปลัดกลาโหม
ปีพ.ศ 2535 1 ปีต่อมา ขอกลับเข้ารับราชการใหม่ แต่ซิกแซกไปเป็นทหารเรือก่อน แล้วค่อยโยกกลับมากองทัพบก ในยุค พลเอก บรรจบ บุนนาค เป็นปลัดกลาโหม
ปีพ.ศ.2536 ถูกปลดออกจากราชการรอบที่ 2 ฐานหนีราชการไปค้ายาที่ออสเตรเลีย ในยุค พลเอก สุวิช จันทรประดิษฐ์ เป็นปลัดกลาโหม
ปีพ.ศ.2536 1 ตค 2536 มีการถอดยศในนาม ร้อยโท ยุทธภูมิ โบพรหม ให้มีผลในวันที่ 18 มีค 2536 **โดยมี นายชวน หลีกภัย เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ฯ
ปีพ.ศ.2539 มีการออก พรบ ล้างมลทิน จ้ะ
ปีพ.ศ.2540 7 กค 2540 มีการตรวจสอบคุณสมบัติ ร้อยโท พชร พรหมเผ่า ผ่านเข้ารับราชการได้
13 ตค 2540 พลเอก ธีรรัตน์ พุทธานานนท์ เจ้ากรมเสมียนตรา แย้งให้ต้องขอพระราชทานยศคืนก่อน เพราะถูกถอดยศไปแล้ว และวันที่ 18 ธค 2540 พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ปลัดกลาโหม ทำเรื่องขออนุมัติยศคืนให้ โดย นายชวน หลีกภัย เป็นผู้รับสนอง ฯ แล8. 2541
12 มค 2541 เข้ารับราชการเป็นทหารสื่อข่าว กองบัญชาการทหารสูงสุด
24 ตค 2541 ก็ทำชั่วติดคุกคดี ตุ๋ย ด๊อกเตอร์หนุ่ม เลยถูกถอดยศเป็นครั้งที่ 2 โดย นายชวน หลีกภัย เป็นผู้รับสนองฯอีกเช่นเคย
ปีพ.ศ. 2550 มีการออก พรบ ล้างมลทิน อีกครั้ง
ปีพ.ศ. 2562 จากทหารที่ถูกปลดออกจากราชการ 3 ครั้ง และถูกถอดยศ 2 ครั้ง คืนยศอีก 1 ครั้ง และออก พรบ ล้างมลทิน 2 ครั้ง
ปัจจุบัน จนมาเป็น รมช เกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลโจรสืบทอดอำนาจ คู่เคียง ประธานสภา ที่ทั้งปลดและคืน ยศมันมาตลอด 20 กว่าปีนี้
ไม่ว่าคุณจะใช้ผัสสะส่วนไหนตรึกตรองดู ทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คนๆนี้ ไม่ใช่คนดีย์ ดอกว่ะ
ยังครับยังไม่จบ ค่อยๆอ่านค่อยทำใจเป็นกลาง เกี่ยวกับ คนชื่อ รอ.ธรรมนัส
พี่นัส ( รอ มนัส พรหมเผ่า ) ต่อมาเป็น. รอ ธรรมนัส. พรหมเผ่า ที่ผมรู้จัก. พี่นัสได้มาอยู่กับ นายแอ็ว. (พลเอก อัครเดช ศศิประภา ) เมื่อ 20 ปีที่แล้ว. โดย เสธ ม่อย และ พี่ไอซ์ พลเอก ไตรรงค์. อินทรทัต. พาให้พี่นัสมาอยู่มาช่วยงาน พี่นัสมาอยู่ 2 ปี พี่นัส ก็ไปทำธุรกิจ ส่วนตัว
พี่นัส ไปมาหาสู่และมาเยี่ยมคารวะนายทุกวันเกิดและวันปีใหม่ เสมอต้นเสมอปลาย จนนายแอ๋ว เสียชีวิต เป็นคนมีความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณ (ก็ถือว่า มีคุณธรรมในความกตัญญู ต่อผู้มีพระคุณอย่างดี )
การเข้าสู่วงการ. ผู้กว้างขวาง ในยุทธจักรนักเลง หรือ มาเฟีย ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับ นักการเมือง สนามม้า. นักเลงมือปืน วงการกีฬา วงการของต้องห้าม ความเด็ดขาด และความโหดต้องมี และก็จะมีกลุ่มต่างๆเข้ามาอยู่ด้วยอย่างไม่อาจปฎิเสธคือ ทั้ง มือปืน นักเลง นักเคลื่อนไหว
ที่เปรียบเสมือน นก ที่ต้องมาอาศัยความแข็งแรงของต้นไม้มีกิ่งก้านสาขาที่ แผ่บารมีไปทุกวงการ. ( ทำความผิด ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงจำเป็นต้องมีทั้งเงิน และมีทนายที่ดี มีคอนเนคชั่นทุกวงการ พี่นัส ก็ ไปอยู่กับกลุ่ม พี่หิมาลัย เตียมทหาร รุ่น 25 ที่ทั้ง 2 คนมี จุดเด่น จุดแข็งที่เอื้อต่อกัน อีกคน บู๊ อีกคนบุ๋น ( รับงาน ในการเข้าเคลียร์พื้นที่ ต่างๆเช่น บาร์เบียร์ ที่ดิน
ตรงรังสิต ของกลุ่ม โพธิรัตนนางกูล (ที่ใช้กฏหมาย ในการไล่ที่ ต้องสู้ในหลายชั้นศาล แต่ใช้กลุ่มนี้ ใช้เวลาไม่เกิน 2-5 วันเคลียร์ได้หมด ) ช่วงหลังมี หน่วยงานของรัฐ ยังมาใช้บริการ บ่อยๆ
ในวงการผู้กว้างขวางใน กรุงเทพ. ณ ตอนนี้ ก็มีเฉพาะ เฮีย กงกง. (เยาวราช ที่มีบารมีอย่างมาก แต่ไม่เคยแสดงตัวชอบอยู่เงียบ แต่ลูกน้องมีทุกรูปแบบ มีครบทุกแบบ นิยมใช้มีด เป็นอาวุธ ตำรวจ อยากรู้ความเคลื่อนไหวใคร มาถาม เฮีย กงกง จะไม่ผิดหวัง
พี่ธรรมนัส จึงก้าวเข้ามาในแวดวง ผู้กว้างขวางที่ก้าวขึ้นมาเร็ว เพราะได้ ลูกสาว 5 เสือกองสลาก มาเป็นภริยา ( และมาได้ นางงามมาเป็นภริยา ) จึงมีทุน ที่ตัวเองมีจุดแต้มต่อ และต่อยอดทางธุรกิจได้เร็วและขยายไปอย่างไม่ติดขัด. ( ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจึงใช้เป็นมือเป็นไม้ ที่เป็นทหารเก่า มาดำเนินกลยุทธ์ ใต้ดิน ไม่ว่าเสื้อเหลือง. เสื้อแดง. มือปืนป็อปคอนส์) เป็นต้น.
ไม่ว่า คดีห้างทอง (คนที่อยู่กับคุณห้างทองคนสุดท้าย ปัจจุบันก็อยู่ อเมริกา จ่าหมง คดีสุขุม เชิดชื่น เสธ เฝ่ย (ที่โดนหลอกเข้าไปบ้านตระกูลใหญ่ ริมถนนเพชรบุรี) แล้วหายไปจนถึงทุกวันนี้. เพราะโดนเผา และป่นกระดูกผสมปูน ไปหมดแล้ว มาเฟียทางทหาร จึงไม่มีใคร กล้าแสดงตนมากนักเพราะรู้ว่ายุคนี้ทุกอย่างโดนสกรีน จากระบบ
การที่ พี่มนัส เล่นบทบาท ผู้ประสานกับพรรคการเมือง นั่นต้องใช้ทั้งประสบการณ์และความมีบารมี ทางการเมืองและบุญคุณที่มีต่อกัน ซึ่งพี่มนัส. ยังขาดเรื่องบารมี. (พลเอก อัครเดช เคยสอนว่า ทำตัวเหมือน ใยแมงมุม. จงช่วยคนให้เยอะ เราช่วยเขาวันนี้ เขาก็ช่วยเราวันข้างหน้า. บุญคุณใช้กันตลอดชีวิต ก็ไม่หมด คนล้มอย่าข้าม/ เป็นคำสอนที่มักสอนลูกน้องเสมอ
พลเอก เปรม มี มี พลเอกอาทิตย์มี บิ๊กจิ๋ว. (บิ๊กจิ๋วมี. เสธ แอ็ว ) มี พลเอก สุรยุทธ์ (เล่นทั้งบนดินและใต้ดิน สไตล์ ป่าหวาย น้าชาติ มี พลเอก ศักดา และพลเอก อธัยา แผ้วพาลชน ชวน มี เสธ สนั่น (เสธ หนั่นมี เสธ แอ็ว) บรรหาร มี เสนาะ. มีจองชัย บิ๊กจิ๋ว. มี เสธ หมึก. มีพลตรี ศรชัย. มนตรีวัต มี เสธ แอ็ว ชวน. มี สุเทพ มี นิพนธ์. พร้อมพันธ์ ทักษิณ. มีเสนาะ มี เสธแอ็ว มีหมอ พรหมมินทร์ มีคุณผดุง พลเอก สนธิ ( มีหน้าห้อง เป็นกุนซือ หลอกคนจนไม่รู้ว่าจริง หรือ ปลอม สไตล์ รบพิเศษ อภิสิทธิ์ มีสุเทพ มี พลเอก ประยุทธ์ พลเอ ประยุทธ์ ตอนปฎิวัติ มี พลเอก ดาวพงศ์ และ พลเอกไพบูลย์ (เป็นกุนซือ ) แต่ปัจจุบัน ท่านทั้ง 2 ได้รับเกียรติสูงขึ้น
ในปัจจุบัน. รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ 2 (ขาดกุนซือ) จึงทำให้. พลเอก ประยุทธ์ จึงมาใช้ รอ ธรรมนัส ( ความจริง ต้องอยู่ใต้ดิน พอใช้คนอยู่ใต้ดินมาเล่นเกม บนดิน จึงเป็นเหตุให้ทุกอย่างถาถมมายัง พี่มนัส
พี่มนัส ก็ เปิดตัวเองเร็วไป ทำตัวเป็นกุญแจ สำคัญ ทำเป็นเส้นเลือดใหญ่ ทุกฝ่ายจึงต้องตัดเส้นเลือดใหญ่ หรือ หักกุญแจ เสีย การเป็นผู้จัดการรัฐบาล ต้องมีบารมี มากด้วยประสบการณ์ ไม่กินในที่ลับมาคายในที่แจ้ง
ผมเลยเขียนไม่รู้ไปทิ่มแทงใจ หรือเปล่า...!