นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส แสดงความมั่นใจว่า ภายในปี 2562 ลูกค้า AIS Fibre (เอไอเอส ไฟเบอร์) จะมีจำนวนเกิน 1 ล้านราย จากที่ปัจจุบันมีฐานผู้ใช้ 9.01 แสนราย ส่วนแบ่งตลาด 9% ของตลาดรวมฟิกซ์บรอดแบนด์ไทย ปัจจัยบวกคือความร้อนแรงของโปรโมชัน ซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันในตลาดจนส่งให้ตลาดโต เกิดความคึกคัก

ทั้งนี้ เป้าหมายของเอไอเอสไฟเบอร์ขณะนี้ไม่ใช่การขยายตัวเลขส่วนแบ่งตลาด แต่อยู่ที่ฐานผู้ใช้ที่ตั้งไว้เป็นหลักไลม์ 1 ล้านราย และ 2 ล้านราย หากมีฐานผู้ใช้ทะลุ 1 ล้านรายจะทำให้เอไอเอสไฟเบอร์กลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาด และหากขยับเพิ่มถึงหลัก 2 ล้าน ก็จะคุ้มทุน คาดว่าจะเห็นตัวเลขดังกล่าวไม่เกิน 3 ปี หรือในปี 2566 เมื่อถึงเวลานั้นจะขึ้นเป็นเบอร์ 2 ของตลาด

ขณะที่ ผลประกอบการของเอไอเอส ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังคงมีรายได้เติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตกว่า 26%

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันลูกค้า AIS Fibre เป็นกลุ่มใช้บริการโทรศัพท์มือถือของ AIS 80% ขณะที่ผู้ใช้ฟิกซ์บรอดแบนด์ทั่วประเทศมีจำนวน 9.4 ล้านครัวเรือน จาก 22 ล้านครัวเรือน โดยที่ผ่านมา ฐานลูกค้าเอไอเอสไฟเบอร์เพิ่มจาก 7.31 แสนรายในปลายปี 2561 มาเป็น 8.55 แสนรายในปลายไตรมาส 2 ปี 2562 ถือว่ายังห่างเมื่อเทียบกับทรูออนไลน์ เบอร์ 1 ในตลาดที่มีฐานผู้ใช้ 3.5 ล้านราย

ทั้งนี้ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และเก่า เอไอเอส ไฟเบอร์ จึงออกแพ็กเกจใหม่ Super Mesh Wi-Fi ความเร็ว 1 กิกะบิตต่อวินาที (1 Gbps) จุดเด่นคือความร่วมมือกับโนเกีย (Nokia) ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi รุ่นใหม่ "Nokia WiFi Beacon 1” (Mesh WiFi) โดยจะแถม Router 2 ตัว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าบ้าน 2 ชั้นให้ได้ใช้อินเทอร์เน็ตเต็มสปีดทุกพื้นที่

ราคาแพ็กเกจ 1 Gbps ของเอไอเอส ไฟเบอร์ เริ่มที่ 999 บาท นั้นแพงกว่าทรูออนไลน์ เริ่มที่ 899 บาท แต่ราคาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะความเร็วจากการใช้ Wi-Fi ที่ได้จาก 2 บริษัทจะไม่ต่างกัน แต่จุดต่างคือเอไอเอส ไฟเบอร์ให้ Router 2 ตัว ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ทั่วบ้าน โดยมีการจัดโปรเพิ่มสปีดและแถม Router 2 ตัว เพื่อต้องการแก้ pain point ของผู้บริโภคที่พบว่า 30% ของลูกค้าเอไอเอสไฟเบอร์ ที่โทรมาคอลเซ็นเตอร์ ร้องเรียนเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ครอบคลุมทั่วบ้าน

นอกจากนี้ แพ็กเกจ Super Mesh Wi-Fi จะทำตลาดพร้อมบริการคอนเทนต์ ทั้ง Netflix และบริการสตรีมมิงค่ายอื่น เช่น HBO GO ที่น่าจับตาคือการคว้าสิทธิ์ผู้ถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 อย่างเป็นทางการบนอุปกรณ์พกพา บริการไอพีทีวีแบบเสียค่าสมาชิก และผ่านอินเทอร์เน็ตเพียงรายเดียวในไทย ซึ่งทางเอไอเอสยืนยันว่าจะปฏิบัติตามกฎ Must Carry และ Must Have ของ กสทช โดยผู้ชมผ่านกล่องทรู จะได้ชมการถ่ายทอดบางรายการผ่านฟรีทีวีเท่านั้น