ด้วยโลกและสังคมที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทุกวันนี้เรามักจะคุ้นชินกับคำว่า ‘เทคโนโลยี, ดิจิทัล, ออนไลน์ และนวัตกรรม’ เราพบเจอจนชินตาทั้งในด้านการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว ความฉลาดในการจัดเก็บข้อมูล การทำธุรกรรมทางการเงินยุคใหม่ รวมทั้งการเพิ่มคุณภาพชีวิตหรือแม้แต่การประหยัดพลังงานด้วยนวัตกรรม  ล่าสุดบนโลกโซเชียล เพจเฟซบุ๊ก “Start ให้ Up” ได้จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เกี่ยวกับเทรนด์นวัตกรรมในดวงใจ โดยสอบถามว่า “นวัตกรรมอะไร...ที่คุณใช้มากที่สุด!” พร้อมให้ตัวเลือกเป็นไอเดียและนวัตกรรมต่างๆ ที่มีใช้ในประเทศไทย และเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง ประหยัดน้ำมัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดแคมเปญประหยัดพลังงาน “ชวนกันแชร์ แบ่งกันใช้” ซึ่งที่ผ่านมามีการจุดกระแสแนวคิดนี้ผ่านโครงการรวมพลังหาร 2 โดยสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ที่ได้ดำเนินโครงการเพื่อรณรงค์การประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง 

จากผลสำรวจโซเชียลเพจเฟซบุ๊ก “Start ให้ Up” ในหัวข้อ “นวัตกรรมอะไร...ที่คุณใช้มากที่สุด” เกี่ยวกับนวัตกรรมการประหยัดพลังงาน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีผู้เข้ามาตอบคำถาม จำนวน 382 คน ประชาชนทุกช่วงกลุ่มอายุ โดยผลการสำรวจได้แบ่งระดับความนิยม 4 ระดับ ดังนี้
- กลุ่มตัวอย่างนวัตกรรมที่นิยมใช้ในเกณฑ์ระดับความนิยมสูงสุดถึง 40% ขึ้นไป อันดับที่ 1 คือ กลุ่มตัวอย่างใช้นวัตกรรม “Shopping Online” สูงถึง 68.3% รองลงมาคือ นวัตกรรมการสั่งอาหารผ่าน “Food Delivery” 46.3%
-รองลงมากลุ่มตัวอย่างอันดับ 2 กลุ่มนวัตกรรมที่นิยมใช้ในเกณฑ์ระดับปานกลาง ตั้งแต่ 21 – 40% ใช้นวัตกรรม “Application เรียกรถ” 37.2%, ตามด้วยใช้ VDO Conference สำหรับสื่อสารทางไกล 24.1% และการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานอีก 21.7% ตามลำดับ
-กลุ่มตัวอย่างอันดับ 3 กลุ่มตัวอย่างนวัตกรรมที่นิยมใช้ในเกณฑ์ระดับน้อยตั้งแต่ 10 – 20% ใช้แนวคิดหรือวิธีการใหม่ๆ คือ   Work at home 17.5% เทรนด์การใช้นวัตกรรมสำหรับคนยุคใหม่ที่นิยมเลือกทำงานที่บ้านแทนการตอกบัตรเข้าออฟฟิศทุกวัน และนวัตกรรมรูปแบบใหม่ EV Car รถพลังงานไฟฟ้า มีความนิยมใช้อยู่ที่ 11.3% ซึ่งใกล้เคียงกับความนิยมใช้นวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ Smart Home  อยู่ที่ 10.2% ตามมาด้วยการใช้ Co-working Space 9.9% ขณะที่กระแสความนิยมใช้นวัตกรรม Solar home หรือติดแผงโซลาร์เซลล์ที่บ้านอยู่ที่ 9.9% เช่นเดียวกัน
-กลุ่มตัวอย่างอันดับ 4 นวัตกรรมที่มีความนิยมใช้น้อยมากที่สุด ต่ำกว่าร้อยละ 9 จากแบบสำรวจ คือการเลือกใช้ App Bike Sharing เดินทางระยะสั้นด้วยการปั่นจักรยาน อยู่ที่ 3.9% เท่านั้น

จากผลสำรวจดังกล่าว มีความน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ เมื่อสังคมปรับตัว เทคโนโลยีและนวัตกรรมจึงกลายมาเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการดำรงชีวิตของคนในสังคมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งไม่ว่าจะถูกพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบไหน หากแต่เราใช้อย่างถูกวิธี ก็จะสามารถทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และอีกทั้งยังเป็นการช่วยลดใช้ทรัพยากรและพลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัด ในรูปแบบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวกับยุคปัจจุบัน