นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานปรับปรุงแผนฟื้นฟู องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้สรุปแนวทางในการแก้ปัญหา ขสมก.ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้ลดราคาค่าโดยสารรถเมล์ลง เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน และลดภาระงบประมาณในการอุดหนุนและชดเชยขาดทุน ลดปัญหามลภาวะทางอากาศ และแก้ปัญหาจราจร โดยจะสรุป แนวทางเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในวันที่ 30 ก.ย.นี้ หากเห็นชอบ ขสมก.จะต้องศึกษารายละเอียดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขอทบทวนแผนฟื้นฟูต่อไป
โดย ขสมก.จะต้องยกเลิกแผนจัดซื้อรถ 3,000 คัน เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย ส่วนการเดินรถจะเปลี่ยนเป็นการจ้างเอกชนเข้ามาเดินรถแทน ซึ่งเอกชนจะต้องจัดหารถใหม่ โดยรัฐจะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน ตัวรถ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง มีระบบ E-Ticket GPS และกำหนดตารางการเดินรถ กำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพการให้บริการ รวมถึง ค่าปรับในกรณีต่าง ๆ เช่น รถเสีย เป็นต้น โดยกำหนดเป็นอัตราเดียวแบบเหมาหรือตั๋ววัน โดยขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว ซึ่งราคาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 30 บาท ส่วนผู้ที่เดินทางเที่ยวเดียว จะใช้โครงสร้างที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมีมติล่าสุด ที่ 4 กิโลเมตรแรกราคา 15 บาท, กิโลเมตรที่ 4- 16 ราคา 20 บาท และกิโลเมตร ที่ 16 ขึ้นไป ราคา 25 บาท
ส่วนพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก.จะต้องทำแผนเออร์รี่ และพนักงานขับรถ จะกำหนดเป็นเงื่อนไขให้เอกชนที่เข้ามารับจ้างเดินรถ รับพนักงานขับรถ ขสมก.ไปด้วย ซึ่งพนักงาน ขสมก.จะได้รับค่าเออร์รี่ และไม่มีปัญหาเรื่องตกงาน อีกด้วย โดยจะมีเวลาเปลี่ยนผ่านประมาณ 2 ปี
สำหรับเส้นทางเดินรถตามการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 269 เส้นทาง (ขสมก. 137 เส้นทาง ปัจจุบันวิ่งจริง 95-96 เส้นทางทาง ,รถร่วมเอกชน 132 เส้นทาง) จะต้องปรับปรุงใหม่ด้วย โดย ให้ ขสมก. กรมการขนสงทางบก และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) หารือกัน ซึ่งเสนทางอาจจะลดลง หรือมีระยะทางที่สั้นลง เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เนื่องจากจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม และจะสามารถแก้ปัญหาภาระหนี้สะสมที่มี 130,000 ล้านบาทได้ โดย ขสมก.จะต้องทำรายละเอียดให้ชัดเจน รวมถึงรูปแบบในการว่าจ้างเอกชนเดินรถ ระยะเวลาการจ้าง เป็นสัญญาเดียว หรือแบ่งย่อยเป็นเขตการเดินรถ ที่จูงใจและคุ้มค่า ที่เอกชนจะเข้ามารับจ้างวิ่ง ภายใต้คุณภาพที่กำหนด
นอกจากนี้ การกำหนดค่าโดยสารแบบเหมาเป็นตั๋ววัน ที่สามารถขึ้นได้ไม่จำกัดเที่ยว ทำให้สามารถจัดการเดินรถให้มีระยะทางสั้นลงและสอดคล้องกับการบริหารจัดการรถ และเป็นฟีดเดอร์กับรถไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องกังวลว่า ประชาชนต้องขึ้นรถหลายต่อแล้วต้องจ่ายค่าโดยสารแพง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการรถเมล์ทั้งหมดประมาณ 2 ล้านเที่ยว-คนต่อวัน หากมีการปรับปรุงบริการที่ดี มีความสม่ำเสมอและค่าโดยสารไม่สูงมาก จะทำให้ประชาชนใช้บริการมากขึ้นแน่นอน