ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
‘ประภัตร’เกาะติดสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร
10 ต.ค. 2562

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อประชุมหารือติดตามมาตรการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever หรือ ASF) โดยจุดแรกเดินทางไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ตามลำดับ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วม

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากรายงานขณะนี้มีการพบโรคแพร่ระบาดในสุกรใน 27 ประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดชายแดนประเทศไทย ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา (ยกเว้นมาเลเซีย) อย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุกรของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว โดยกรมปศุสัตว์ได้เฝ้าระวังติดตามอย่างเข้มงวด ซึ่งประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อม โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศจีนเริ่มเกิดการระบาดของโรคดังกล่าว  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมปศุสัตว์ ได้มีมาตรการการควบคุมและป้องกันโรค ASF มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ

1. ด้านการเตรียมความพร้อม จัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและแนวเวชปฏิบัติของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร นอกจากนี้ รัฐบาลยกระดับแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นวาระแห่งชาติ และมีการจัดตั้ง War Room ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ส่วนกลาง มีอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธาน และส่วนภูมิภาคมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อขับเคลื่อนมาตรการ ซ้อมแผนรับมือโรคฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการตรวจวินิจฉัย ตลอดจนร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ OIE , FAO จัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลการเฝ้าระวังและป้องกันโรคฯ

2. ด้านมาตรการในการป้องกัน มีการประกาศระงับการนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์จากสุกรจากประเทศที่มีการระบาดของโรค รวมทั้งบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนในป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสุกร ผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศ 3. ด้านมาตรการการเฝ้าระวัง จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ X-Ray เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังทางอาการ ขึ้นทะเบียนและประเมินความเสี่ยงด้วยแอพลิเคชั่น อี -สมาร์ทพลัส พร้อมให้คำแนะนำความรู้เรื่องโรคและการป้องกัน

นอกจากนี้ ความแตกต่างทีไทยต่างจากประเทศอื่นๆ ให้ความสำคัญในการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมจัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Contigency Plan) ทำให้มาตรการต่างๆ ในการป้องกันโรคสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น จัดทำโรงพ่นยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค ที่ด่านชายแดนที่สำคัญ 5 แห่ง ร่วมสนับสนุนเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อและยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ในการพ่นยาฆ่าเชื้อให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันโรค ร่วมสนับสนุนการจัดงานสัมมนาให้ความรู้เรื่องโรคและการป้องกันโรคให้กับเกษตรกรรายย่อย เข้มงวดในการส่งออกสุกร ลดความเสี่ยงจากการส่งออกสุกร

โดยรถขนส่งสุกรมีชีวิตที่ใช้ภายในประเทศห้ามไม่ให้ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีการระบาดของโรค ASF ซึ่งมีการเปลี่ยนถ่ายสุกรบริเวณชายแดน และให้รถขนส่งสุกรที่ใช้เฉพาะไปยังประเทศเพื่อน (ห้ามมาใช้ขนส่งสุกรภายในประเทศ) ร่วมมือกับภาครัฐรับซื้อหมูจากเกษตรกรรายย่อยที่มีความเสี่ยงนำไปในราคาตลาด ที่เป็นธรรมนำมาเชือดเพื่อแปรรูปปรุงสุกหรือฝังทำลาย ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือที่ผู้ประกอบรายใหญ่ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยให้มีรายได้ป้องกันความสูญต่อเกษตรกรรายย่อย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...