นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.)ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2562 เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
สำหรับการพิจารณาวาระสำคัญ เกี่ยวกับมาตรการทุ่มตลาด คือ
1.การพิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็น ชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป ตามมาตรา 57 ที่ประชุมมีมติว่า หลังจากใช้มาตรการมาแล้ว 5 ปี จะนำไปรับฟังผู้มีส่วนได้เสียหลังจากใช้มาตรการ แล้วนำมาพิจารณาว่าจะต่ออายุมาตรการต่อไปหรือไม่ โดยเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ พิจารณาต่ออายุการใช้มาตรการต่อไปอีก 5 ปี เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอว่าหากยุติการเรียกเก็บอากร AD จะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไป หรือทำให้การทุ่มตลาดฟื้นคืนมาอีก
2.การพิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากรดซิทริก ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป ตามมาตรา 57 ที่ประชุมมีมติว่า มาตรการที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2547 พิจารณาต่ออายุ อากร AD ต่อไปให้เรียกเก็บในอัตราเดิม คือ ร้อยละ 57.79 ของราคาซีไอเอฟ เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอว่า หากยุติการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดจะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไป หรือทำให้การทุ่มตลาดฟื้นคืนมาอีก
3.การพิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน ที่มีแหล่งกำเนิดจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และไต้หวันต่อไป ตามมาตรา 57 ที่ประชุมมีมติ เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด เนื่องจากมีข้อมูลแสดงความเป็นไปได้ที่จะมีการทุ่มตลาดต่อไปหรือฟื้นคืนมาอีก รวมทั้งยังมีแนวโน้มในการขายจัดราคาได้ในอนาคต และหากยุติการใช้มาตรการนี้ อาจจะเกิดการทะลักของสินค้าเข้ามาในราคาที่มีการทุ่มตลาด ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดเย็นในประเทศไทยเกิดความเสียหายต่อไป จึงให้จัดเก็บในอัตราเดิมต่อไปอีก 5 ปี และหลังจากนี้จะเอาไปรับฟังความคิดเห็นประชาชน และบังคับใช้ต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุม มีกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งทำหน้าที่เลขาฯรายงานเรื่องเพื่อทราบ คือ
1.สรุปผลการเข้าพบหารือระหว่างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย (กลุ่ม 7 สมาคม) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กไทยและเหล็กโลก โดยมีประกาศกฏกระทรวง 15 ฉบับ โดยตั้งใจจะให้มีผลบังคับใช้ได้กลางเดือนพฤศจิกายน
2.สรุปสถานะการฟ้องร้องและร้องเรียนที่เกิดจากการใช้มาตรการเยียวยาทางการค้า ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2562 หลังจากออกมาตรการเยียวยาทางการค้า มีการฟ้องร้องและร้องเรียน ที่มีการกำหนดอากรตอบโต้ ในแต่ละรายไม่เท่ากัน โดนส่วนใหญ่ผู้นำเข้าเป็นผู้ฟ้องร้องจากความไม่พอใจในมาตรการ โดยสรุปมีผู้ฟ้องร้องขณะนี้ 7 กรณี
3.ความคืบหน้าในการจัดทำอนุบัญญัติตามพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 4.สรุปผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดทางเทคนิคของสินค้าเหล็ก กรณีการยกเว้นการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดเป็นม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น