ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คือพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูปกันมากในปะเทศไทย ซึ่งเกษตรกรส่วนมากคิดว่า การใช้ปุ๋ยเคมีในการปลูกจะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมาก แต่ในทางกลับกันมีแต่จะส่งผลเสีย เพราะนอกจากผลผลิตน้อยแล้วยังทำให้ดินเสื่อมคุณภาพ คุณนิคม เชาว์แล่น ก็เป็นเกษตรกรอีกผู้หนึ่งที่ประสบปัญหากับการใช้เคมี
“ตอนที่ผมใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้ดินเสื่อมสภาพ ทำให้รากข้าวโพดขยายยาก ตอนที่ผมใช้ปุ๋ยเคมี มันทำให้ข้าวโพดมันไม่ร่วน ทำให้ต่ำๆ สูงๆ มันไม่ได้ผลผลิตที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย”
ซึ่งในตอนแรกคุณนิคมไม่เชื่อว่า ปุ๋ยออแกนิคจะทำให้ได้ผลผลิตดีกว่าเคมี จึงทดลองโดยการแบ่งแปลงทดลอง
ใช้ “ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อว่าปุ๋ยอินทรีย์จะดีจริงเท่ากับปุ๋ยเคมี ผมก็เลยมาใช้คนละครึ่ง 2 ไร่ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ครึ่งหนึ่ง ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งหนึ่ง ปรากฎว่าแปลงที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์มันต้นใหญ่ ต้นแข็งแรง ฝักใหญ่ รวงสวย ใบใหญ่ เท่ากันหมด เราไปดูแปลงปุ๋ยเคมี ก็ต่ำๆ สูงๆ ฝักน้อย มันไม่เท่ากัน ผมก็เลยทดลองอย่างละครึ่ง ผลปรากฎว่าแปลงที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอได้ผลดีกว่า”
โดยคุณนิคมมีวิธีการใช้ปุ๋ยออร์แกนิกทีพีไอ ดังนี้ “ขั้นแรกผมใช้ปุ๋ยทีพีไอสีเขียว 1 ลิตรต่อน้ำ 200 ลิตร พ่นทางดิน เดือนหนึ่งผมใช้ 1 ครั้ง พ่นทางดิน ต่อไปผมใช้สีม่วงหลังจากข้าวโพดปลูกได้ 15 วัน ผมใช้สีม่วง 1 ลิตรต่อน้ำ 500 ลิตร พ่นทางใบทุก 15 วัน 2 ครั้งต่อเดือน”
และนี่คือความประทับใจของผู้ใช้ปุ๋ยออร์แกนิกทีพีไอ
“หลังจากผมใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทีพีไอ สีม่วงกับสีเขียวแล้ว ก็เลยลดปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง เพราะทำให้สุขภาพเสีย ผลผลิตที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สีม่วงและสีเขียวทำให้ลดต้นทุนและได้เงินมากขึ้น” คุณนิคมให้คำยืนยัน