นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร เมื่อเร็วๆ นี้ว่า สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) มีบทบาทสำคัญในการเป็นหน่วยงานกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศ (National Standardization Body: NSB) เพื่อให้มาตรฐานที่กำหนดขึ้นมีความเหมาะสม ปลอดภัยต่อผู้บริโภค อยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกร/ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติได้ รวมทั้งมีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ และถือเป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้มีการเพิ่มจำนวนมาตรฐานให้เพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยจะต้องเร่งสร้างมาตรฐานให้กับสินค้าเกษตรทุกชนิด อาทิ ปศุสัตว์ และพืช เป็นต้น เพื่อให้คนไทยได้ใช้สินค้า Q ที่มีคุณภาพมาตรฐานเพื่อสุขภาพที่ดี
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการวิชาการพิจารณามาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ฟาร์มสุกร โดยปี 2562 ประเทศไทยมีฟาร์มเลี้ยงสุกร จำนวน 184,717 แห่ง ซึ่งมีสุกรพ่อแม่พันธุ์และสุกรขุน จำนวน 11 ล้านตัว ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประกาศมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร ตั้งแต่ปี 2558 ไปแล้ว ซึ่ง มกอช.เห็นควรปรับปรุงมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้ฟาร์มสุกรมีระบบป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่สำคัญในสุกร และสอดคล้องกับแผนการเฝ้าระวังและมาตรการป้องกันควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever) ของกรมปศุสัตว์ อีกทั้งให้มีมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับฟาร์มสุกรขนาดเล็ก
โดยจัดทำมาตรฐาน 2 เรื่อง ได้แก่ 1. การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร (Good Agricultural Practices; GAP) (ทบทวน) และ 2. ฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (Good Farming Management; GFM) โดยมาตรฐานฉบับนี้จะช่วยส่งเสริมยกระดับมาตรฐานฟาร์มเลี้ยงสุกร ส่งเสริมความปลอดภัยอาหารของสินค้าสุกรและผลิตภัณฑ์จากการลดปัญหายาสัตว์ตกค้าง ส่งเสริมสุขอนามัยในการเลี้ยงสัตว์ที่ดี เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่สำคัญในสุกร และเพื่อเป็นอาหารที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภคอีกด้วย