นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวทั้งไทยและอินเดียว่า เบื้องต้นข้อมูลสรุปการเจรจาการค้าและการจับคู่ธุรกิจที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดียโดยวันเดียวที่บังกาลอร์ได้ดำเนินการจัดสัมมนาระหว่างนักธุรกิจสองประเทศ การลงนาม MOU เพื่อนำเข้าสินค้าจากไทย และมีการทำการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างกัน และเปิดตัวสินค้าไทยในเว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียชื่อ Bigbasket โดยสามารถสร้างมูลค่าการค้าได้ ดังนี้

 1. ไม้ยางพารา 11,000 ลูกบาตรเมตร มูลค่า 100 ล้านบาท 
2. มันสำปะหลัง 3,500 ตัน มูลค่า 72 ล้านบาท
3. กาวผง 1,200 ตัน มูลค่า 60 ล้านบาท
4. เฟอร์นิเจอร์ อาหาร เคมีภัณฑ์ รวมมูลค่า 805 ล้านบาท 
5. เปิดตัวสินค้าไทย 200 รายการใน Bigbasket.com คาดว่าในปีแรกจะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท รวมมูลค่าการเจรจาทั้งหมดประมาณ 1,100 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ระบุว่า นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีพาณิชย์ของรัฐเตลังกานา และได้มีความเห็นร่วมกันในการหาลู่ทางในการทำความตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์และรัฐเตลังกานา ประเทศอินเดีย เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งและตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกงสุลใหญ่ของไทยที่เมืองเจนไน เป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อกำหนดหัวข้อและประเด็นต่างๆ ของความร่วมมือ ตัวอย่างที่ได้หยิบยกมาในการหารรือ เช่น ความร่วมมือในการส่งเสริมนโยบาย Plastic ban ซึ่งแป้งมันสำปะหลังสามารถนำมาทำพลาสติกชีวภาพในอินเดียได้ และนโยบาย Housing for all หรือการให้คนอินเดียมีบ้านอยู่ทุกคน ซึ่งไม้ยางและเฟอร์นิเจอร์จากไทยสามารถส่งออกมาเพื่อการนี้ได้ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมยา ซึ่งไฮเดอราบัดที่เป็นเมืองหลวงของรัฐเตลังกานา เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยา ซึ่งใช้แป้งมันสำปะหลังมาผลิตยา จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการแป้งมันของไทย รวมทั้งนโยบายของรัฐเตลังกานาที่จะสร้าง Furniture park ขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไม้ยางและเฟอร์นิเจอร์ไทยอีกเช่นกัน