ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า สังคมไทยมีการใช้กัญชามาอย่างยาวนานโดยใช้เป็นยา อาหาร สันทนาการ และใช้ในสัตว์เลี้ยง จากกระแสโลกาภิวัตน์ที่ปัจจุบันคนในสังคมโลกมีความนิยมใช้กัญชา ประเทศไทย เองก็ได้มีการศึกษาวิจัย และพัฒนากัญชากัญชงเพื่อนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนั้น จึงมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษและประโยชน์ รวมทั้งวิธีใช้ กัญชาอย่างถูกต้อง อันเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง เราจึงต้องเตรียมคนไทยให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมไทย รัฐบาลภายใต้การนําของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กําหนดนโยบายเร่งด่วนตามที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ที่กําหนดให้มีการช่วยเหลือเกษตรกร และพัฒนานวัตกรรม เร่งศึกษาวิจัย และพัฒนา เทคโนโลยีการใช้กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกําหนดกลไกการ ดําเนินงานที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อให้การดําเนินงานดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา กระทรวงศึกษาธิการจึงได้มอบหมาย ให้สํานักงาน กศน. โดย สํานักงาน กศน.กทม. ร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ดําเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับกัญชาและกัญชง โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงที่ถูกต้อง ให้แก่ผู้เรียนและ ประชาชนทั่วไป เมื่อสถานศึกษานําหลักสูตรนี้ไปจัดการเรียนรู้ หรือเผยแพร่ในวงกว้าง จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้ผู้เรียนรวมทั้งประชาชนทั่วไป ไม่ให้ใช้กัญชาและกัญชงในทางที่ ผิดๆ ได้ และเมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้ว การปลูกกัญชาและกัญชงเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ของประชาชน ก็จะเป็นไปด้วยความถูกต้อง และยั่งยืนต่อไป