รมช.มนัญญา ตรวจเยี่ยมกลุ่มเกษตรกรปลูกผักปลอดสารด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จ.บุรีรัมย์ ชู 4 ต้นแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์จำหน่ายสินค้าเกษตร
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และตรวจเยี่ยมกลุ่มเกษตรกรปลูกผักปลอดสารพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีผู้บริหารของกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมคณะ ณ บ้านห้วยเสลา อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวมนัญญา กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รัฐบาลถือเป็นภารกิจสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องนำประเทศไทย ให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น และพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งกระทรวงฯ มุ่งหวังให้เกษตรกร ใช้ระบบการปลูกพืชผักปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์ เป็นการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพการผลิตพัฒนาสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาดและด้านการตลาดต้องนำการผลิตเป็นการเพิ่มช่องทางในการขายให้กับผู้ผลิตสินค้ารวมถึงการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างความหลากหลายของสินค้าให้ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด สหกรณ์กลุ่มเกษตรกรอื่นๆ สามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการพัฒนาระบบการผลิตพืชผักปลอดภัยให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดที่ส่งผลให้สมาชิกจำหน่ายผลผลิตได้สูงขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้น
"นอกจากการส่งเสริมการปลูกพืชผักอินทรีย์แล้ว ขอฝากโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพเกษตร ซึ่งเป็นโครงการที่รองรับคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักการทำเกษตรกรรม และต้องการกลับไปทำงานและดูแลคนที่บ้าน มุ่งเน้นการสร้างเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยจะสามารถสร้างคุณภาพชีวิต และรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันได้บูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย ผักอินทรีย์โดยขณะนี้ในจังหวัดบุรีรัมย์ได้มี 4 ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่จัดจำหน่ายสินค้าสหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์แคนดง สหกรณ์โนนสุวรรณ สหกรณ์คูเมือง และสหกรณ์หนองหงส์ และทั่วประเทศมีสหกรณ์ในลักษณะดังกล่าว 44 จังหวัด จำนวน 89 แห่งทั่วประเทศ มั่นใจว่าในอนาคตจะมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายต่อไป" รมช.กล่าว
อนึ่ง ผลงานเด่นของกลุ่มเกษตรกรปลูกผักปลอดสารพลังงานแสงอาทิตย์บ้านห้วยเสลา ได้ดำเนินการปลูกผักปลอดสาร เช่น ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง ผักชีต้นหอม ข้าวโพด และอื่นๆ ตามฤดูกาล ซึ่งสามารถจัดจำหน่ายได้ทุกวัน ทั้งนี้สมาชิกได้รับจัดสรรแปลงปลูกผักพร้อมระบบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เนื้อที่รายละหนึ่งงานซึ่งสมาชิกสามารถปลูกผักได้ทั้งปีตามความต้องการของตลาดเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายกับชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีการส่งเสริมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุน ปัจจัยการผลิตเป็นโรงเรือนเพาะชำกล้าไม้จากกรมวิชาการเกษตรตามโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรมรายย่อย และคำแนะนำในด้านการทำบัญชี รายรับ-รายจ่าย จากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์