ธุรกิจ Eyeb Style เริ่มต้นขายของออนไลน์ผ่านมาแล้ว 4 ปี ตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษาปีที่5 เจ้าแบรนด์มีความสนใจในสินค้าประเภทแว่นตา ซึ่งมาจากเจ้าของแบรนด์เคยเป็นตัวแทนขายมาก่อนและพอมีประสบการณ์ ยิ่งได้สัมผัสบ่อย ๆ จึงทำให้เจ้าของแบรนด์มีความสนใจอยากที่จะทำเป็นธุรกิจของตัวเอง  ซึ่งเจ้าของแบรนด์ได้ผลิตแว่นกรองแสงชนิดต่างๆ ได้แก่ กรองแสง UV400 ปกติ ราคา 160 – 200 บาท , กรองแสงสีฟ้า ราคา 250 – 300 บาท , กรองแสงสีฟ้าและเมื่อออกแดดเลนส์แว่นจะเปลี่ยนสี ราคาจะอยู่ที่ 350 – 390 บาท และสามารถกรองแสงได้ทุกแสง 100% เต็มเมื่อออกแดดเลนส์แว่นจะไม่เปลี่ยนสี ราคาจะอยู่ที่ 590 บาท ซึ่งสามารถรายได้สูงสุดที่เคยได้รับต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท แต่ถ้าเป็นรายได้เฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 150,000 บาท

นางสาวศศิภา ยี่สุ่น (น้องแบม) นักศึกษาชั้นปีที่2 คณะวิทยาลัยผู้ประกอบการ สาขาการประกอบการทุนเบต้ายังรุ่นที่8 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เจ้าของธุรกิจ Eyeb Style เล่าว่า “ด้วยความที่แบมขายแว่นมานานตลอดระยะเวลา 4 ปี จึงทำให้แบมมองเห็นปัญหาของลูกค้าที่เยอะพอสมควร ด้วยความที่เรามีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกค้าบ่อย ทำให้เรารู้ถึงความต้องการของลูกค้าว่าลูกค้านั้นต้องการอะไร ซึ่งกลุ่มลูกค้าของเราส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่กลุ่มนักเรียนมัธยมปลายจนถึงวัยทำงาน มีช่วงอายุระหว่าง 17 – 25 ปี พอเราทราบปัญหาของเลยเริ่มคิดค้นพัฒนาที่จะทำแว่นตาที่ใช้สำหรับกรองแสงคอมพิวเตอร์ แสงสีฟ้าที่เกิดจาก โทรศัพท์มือถือ ประกอบกับสมัยนี้ประชาชนส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะติดโทรศัพท์มือถือ และเกิดการใช้สายตาอยู่กับสิ่งพวกนี้เยอะในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นมันอาจจะส่งผลไม่ดีให้กับสายตาทุกคน ก็เลยคิดว่าการที่จะผลิตแว่นตาเพื่อกรองแสง โดยเฉพาะมันจะช่วยบรรเทาให้ผู้ที่ต้องใช้สายตากับสิ่งพวกนี้นั้นรู้สึกสบายตาขึ้นเมื่อใส่ สินค้าของแบมนั้นจะสั่งทำและนำเข้ามาจากประเทศจีนผ่านบริษัทขนส่งของไทยที่เป็นตัวกลางในการหาสถานที่ผลิตที่สามารถผลิตและส่งสินค้ามาให้เราตามแบบและตามออเดอร์ที่ต้องการภายใต้แบรนด์Eyeb Style สำหรับช่องทางการจำหน่ายหลัก ๆ ในตอนนี้จะมีผ่าน อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก ที่มีชื่อว่า Eyeb Style ซึ่ง 2 ช่องทางนี้นั้น สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะอินสตาแกรมจะได้รับความนิยมมาก เพราะเราจะมีการใช้กลุ่มวัยรุ่นและอินเฟรนเซอร์มาช่วยในการโปรโมทสินค้าตัวใหม่ให้เรา แต่การเลือกใช้อินเฟรนเซอร์ของเรานั้นเราจะเลือกแต่บุคคลที่มีผู้ติดตามค่อนข้างสูงเพราะเมื่อเราเอารูปของพวกเขามาลงในอินสตาแกรม รวมถึงอินเฟรนเซอร์เองก็โพสต์รูปภาพที่ใส่แว่นตาของร้านเราและแท็กชื่อร้านเรา ก็จะทำให้กลุ่มลูกค้าเห็นว่าอินเฟรนเซอร์ส่วนใหญ่ที่เขาติดตามนั้นใส่แบรนด์เรามันก็จะทำให้กลุ่มลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าของเรามากขึ้น ซึ่งยอดขายต่อวันจะอยู่ที่ 100 ชิ้นต่อวัน ช่วงเวลาที่คนเข้ามาซื้อเยอะที่สุดจะเป็นช่วงเวลา 1 ทุ่ม – 4 ทุ่ม เพราะเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในวัยเรียนจนถึงวัยรุ่นนั้นใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุด”

“แผนการตลาดในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปวัยทำงานและผู้สูงอายุเพราะในตอนนี้นั้นเราเริ่มก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและจำนวนผู้สูงอายุก็มีการเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะ ก็เลยอยากที่จะทำแว่นตาให้เหมาะกับกลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มนี้ และนอกเหนือจากนี้ก็จะมีการทำกล่องแว่น ผ้าเช็ดแว่น สายคล้องแว่นที่กำลังฮิตในตอนนี้ รวมถึงอาจจะถุงใส่แว่นที่เป็นโลโก้แบรนด์ Eyeb Styleของเราเอง  แต่สถานะการณ์ของไวรัสโควิด19 ตอนนี้ ส่งผลกระทบต่อการขายสินค้าของแบรนด์เราพอสมควร แต่เราก็มีการวางแผนแก้ไขปัญหาเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยนำสินค้าที่เก็บไว้ในคลังสินค้าของเราในประเทศไทย ออกมาจำหน่ายในช่วงนี้ก่อน  แต่ยอดขายก็ยังคงที่อยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป  ตอนนี้เราก็สามารถดูแลตัวเองได้ไม่ต้องรบกวนค่าใช้จ่ายครอบครัว อีกทั้งเรายังสามารถส่งเงินให้พ่อแม่พร้อมการส่งเบี้ยประกันให้พ่อแม่แต่ละเดือน ที่สำคัญทางวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังมีการให้ทุนตั้งต้นสำหรับนักศึกษา เพื่อขยายกิจการธุรกิจให้เจริญเติบโต ทำให้เกิดธุรกิจแว่นตา EyesB Style ปีนี้จึงเริ่มขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่อง นำวิชาการเงินที่ใช้ในการทำงบบัญชี ซึ่งความรู้ที่ได้จากห้องเรียนธุรกิจมาต่อยอดทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” เจ้าของธุรกิจ Eyeb Style กล่าวทิ้งท้าย