จากคณะกรรมการนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นห่วงต่อวิกฤติการณ์น้ำของประเทศ อันเป็นผลมาจาก “ภาวะโลกร้อน” (Global Climate Change) ที่มีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซาก ตลอดจนปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำน้ำจืด ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม และนางสาวรังสิมา รอดรัศมี สมชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ จึงได้ร่วมเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ในการริเริ่มโครงการแก้มลิงในอ่าวไทย ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำจืดขนาดใหญ่ของประเทศ สร้างกระบวนการบริหารจัดการน้ำที่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ทั้งระบบ สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่น ๆ นั้น
ในการนี้ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้แสดงข้อห่วงใยในประเด็นแนวทางการจัดทำแก้มลิงในอ่าวไทยดังกล่าวว่า เป็นโครงการที่สามารถจัดทำได้ในด้านเหตุผลความจำเป็นตามหลักวิชาการ แต่ควรมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมด้วย โดยมีปัจจัยที่ต้องคำนึง ได้แก่ 1)ควรมีระบบบำบัดน้ำเสียของแม่น้ำแต่ละสาย ก่อนระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย 2)ควรจัดหาแหล่งกักเก็บน้ำจืดและระบบส่งน้ำให้ทั่วถึง ทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก บ่อ หนอง บึง สถานีสูบน้ำ หรือระบบชลประทานที่เข้าถึงพื้นที่ 3)ผลกระทบพื้นที่บริเวณรอบนอกของแก้มลิงในอ่าวไทย ที่เกิดจากการกัดเซาะชายฝั่งทะเล 4)การประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยต้องแจ้งข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน ผ่านสื่อมวลชน 5)ป้องกัน Storm surge เข้าปากอ่าวไทย ลดผลกระทบน้ำท่วมจากคลื่นพายุเข้าฝั่ง และ 6)เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำอย่างบูรณาการ จำเป็นต้องจัดหางบประมาณจากแหล่งเงินอื่นร่วมด้วย