ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน ย้อนกลับ
จีนกำลังฟื้นไข้ ... โลกกำลังบรรลัย
17 มี.ค. 2563

คอลัมน์ โลกของจีน โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ

 

จีนกำลังฟื้นไข้ ... โลกกำลังบรรลัย

ถ้าเปรียบเทียบกับ TRADE WAR หรือสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาพยายามหาเรื่องถล่มจีน อ้างสารพัดเรื่องมาตั้งกำแพงภาษีเพื่อสกัดกั้นสินค้าจีนที่ส่งออกไปขายทำกำไรทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาที่คนอเมริกันก็ไม่ปฏิเสธของดีราคาถูก แต่อเมริกาขาดดุลการค้าบักโกรก จนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศนโยบาย AMERICA FIRST “กูต้องเป็นใหญ่ ใครค้าขายเอากำไรกูไม่ได้”

ทรัมป์นึกว่าวันนี้เหมือนในอดีตที่อยากจะใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่ข่มเหงใครก็ได้ ฝันว่าจะดีดนิ้วสั่งจีนได้ง่ายๆ  แต่ลืมไปว่า จีนวันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน แม้จะได้รับผลกระทบแต่จีนก็พร้อมจะสู้ ขณะที่ระบบการค้าโลกพากันอกสั่นขวัญหายกับผลกระเทือนที่จะตามม หากสองมหาอำนาจโลกทำสงครามการค้ากันแบบเต็มกำลัง

กระนั้นก็ตาม สงครามการค้ากลายเป็นเรื่องเล็กไปทันใดเมื่อไวรัส COVID-19 แผลงฤทธิ์แบบไม่คาดฝัน แบบไม่ทันตั้งตัว เพราะรวดเร็ว รุนแรง ตอนนี้ลามเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก นอกจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่รับไปเต็มๆ ในด่านแรกจากบริษัททัวร์ สายการบิน โรงแรมที่พักทุกระดับขาดทุนกันถ้วนหน้า เพราะนักท่องเที่ยวหดหาย มาถึงด่านนี้ก็เริ่มส่งผลต่อในภาคการผลิต การค้าระหว่างประเทศและภาคบริการ

เพราะจากจีนที่เป็นจุดกำเนิดของไวรัส จีนยังเป็นฐานการผลิตใหญ่ของโลก ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบของภาคเกษตรและอุตสาหกรรมไปยังนานาประเทศทั่วโลก ช่วงที่จีนปิดเมือง ปิดโรงงาน หยุดการผลิตเพื่อสกัดกั้นไวรัส นานาประเทศยังพอมีสต๊อกหรือหันไปสั่งจากแหล่งอื่นได้ แต่พอไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก ก็ย่อมส่งผลในลักษณะเดียวกันกับที่เคยเกิดในจีนคือ อาจจะต้องหยุดผลิต ปิดโรงงานชั่วคราว แล้วใครจะซื้อใคร ใครจะขายใคร

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของจีนประเมินว่า GDP ของจีนปีนี้ทั้งปี จะลดลงแน่ 0.5-1 % โดยช่วงต้นปีมีผลกระทบมาก เมื่อสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสได้ก็จะฟื้นตัวใมนช่วงปลายปี 

สอดคล้องกับ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” หรือ IMF ที่แถลงคาดการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกของปีนี้ ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเริ่มลดน้อยลง จำนวนคนหายป่วยเพิ่มมากขึ้น ภาคการผลิตเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง และน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนมีนาคม

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ประมาณ 40 คน จากเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และสหรัฐอเมริกา  ส่วนใหญ่ตอบในทิศทางเดียวกันว่า COVID-19 ไม่มีผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน เศรษฐกิจจีนยังจะไปได้ดีและจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สอง  และเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

บางคนยังเชื่อด้วยซ้ำว่า หลังการฟื้นตัว เศรษฐกิจจีนยังจะก้าวทะยานอย่างรวดเร็วกว่าเก่าแบบก้าวกระโดด   เพราะจีนได้รับบทเรียนอันมีค่าหลายๆ ด้าน ได้มีโอกาสสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายในช่วงวิกฤติ ได้มีโอกาสจัดระเบียบเรียกความพร้อมระบบราชการ ตรวจสอบความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนในชาติ เสมือนได้เรียนรู้เคล็ดวิชาบทใหม่ที่จะทำให้จีนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นักวิชาการจีนท่านหนึ่งกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคครั้งนี้ เป็นบทเรียนใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจีนในยุคต่อไป รวมถึงการปฏิรูปธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ หลังจากการแพร่ระบาดของโรคจบสิ้นลงแล้ว อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรทางสังคม มีรูปแบบใหม่ทางเศรษฐกิจและธุรกิจเกิดขึ้นอีกมากมาย และนั่นอาจนำจีนไปสู่การพัฒนาถึงขีดสูงสุดรอบใหม่ก็เป็นได้

น่าสังเกตุว่า ในจังหวะที่จีนสามารถควบคุมไวรัสในบ้านตัวเองได้สำเร็จ และกำลังพูดถึงการฟื้นตัวกับการเดินต่อไปข้างหน้า นานาประเทศ (รวมทั้งไทย) ต่างยังอยู่ในภาวะแตกตื่นกับจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มจำนวนขึ้น  การวิ่งหาหน้ากากป้องกันตัวเอง การนั่งดูธุรกิจที่กำลังพัง และความรู้สึกสิ้นหวังต่ออนาคต

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...