นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงการคลัง แถลงความพร้อมมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) หรือ “มาตรการเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน ตามมติครม.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2563” โดยระบุว่า แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราวและอาชีพอิสระ ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการฯได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มี.ค.2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตลอด 24 ชั่วโมง โดยขอให้ผู้ที่มาลงทะเบียน ควรจะใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อสื่อสารกลับได้ เพื่อระบบจะได้แจ้งผลการลงทะเบียนและสิทธิตามมาตรการทางข้อความ SMS ส่วนการรับเงินเยียวยาจะสามารถรับได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ บัญชีธนาคารที่ชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีตรงกับชื่อและนามสกุลที่นำมาลงทะเบียน หรือพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยระบบจะดำเนินการให้จ่ายเงินเยียวยาเข้าบัญชีของท่านได้เร็วสุดภายใน 7 วันทำการ และหากผู้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมีจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน กระทรวงการคลังก็พร้อมจะนำเสนอครม.พิจารณาจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป

"เราหวังให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้ามาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นระบบที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ โดยกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะตั้งศูนย์เครือข่ายรับเรื่องและตอบข้อสงสัยของคนที่จะเข้าโครงการฯ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการช่วยเหลือของภาครัฐได้ด้วยความสะดวก และจ่ายเงินให้เร็วและสะดวกที่สุด" นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม ย้ำว่า การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ดังกล่าว ไม่ได้มีการตัดสิทธิ์ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่อย่างใด 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า การเปิดรับลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท นาน 3 เดือน ผ่านเว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ในวันเสาร์ที่ 28 มี.ค.นี้ เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

โดยผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจะต้องมีคุณสมบัติหลักๆ 3 ข้อ ได้แก่ 1.เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ 2.ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม คือ ไม่ได้รับการดูแลหรือเยียวยาจากระบบประกันสังคม ดังนั้น ผู้ประกันตนในมาตรา 39 และมาตรา 40 ถือว่ามีสิทธิเข้ามาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯได้ ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งขณะนี้ได้รับการดูแลจากประกันสังคมแล้ว จึงไม่ได้สิทธิเข้าร่วมโครงการฯ และ 3.ต้องแสดงให้เห็นว่าได้รับผลกระทบจากการการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ส่วนขั้นตอนการกรอกข้อมูลในเว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยจะเป็นการกรอกข้อมูลที่ไม่ยากและไม่ซับซ้อน โดยต้องมีบัตรประชาชน และกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น อาชีพ แต่หากมีนายจ้างหรือเป็นสถานประกอบการที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ก็ให้กรอกข้อมูลเข้ามาว่าทำงานที่สถานประกอบการแห่งใด

ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนแล้ว ระบบจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และหากผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1.การรับเงินผ่านบัญชีธนาคารแห่งใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ตามเลขบัญชีและธนาคารที่แจ้งเอาไว้ 2.การจ่ายเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน โดยจะได้รับเงินอย่างเร็วที่สุดใน 7 วันทำการ

นายลวรณ กล่าวว่า หากมีผู้มาลงทะเบียนและได้สิทธิรับเงินเยียวยาเกิน 3 ล้านคน กระทรวงการคลังจะเสนอของบประมาณเพิ่มเติมจากครม.

"เราไม่ได้ตัดตัวเลขคนที่จะได้รับการเยียวยวที่ 3 ล้านคน หรือใครมาก่อนได้ก่อน โดยขอให้ท่านมาลงทะเบียนให้ครบถ้วน โดยทุกคนที่ผ่านคุณสมบัติ 3 ข้อ จะได้รับเงินทุกคน"นายลวรณกล่าว

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่ามีแรงงานนอกระบบ 20 ล้านคน ทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากนั้น นั้น นายลวรณ กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวมาจากประเมินว่าผู้ที่อยู่ในวัยกำลังแรงงานทั้งหมด 36 ล้านคน และมีผู้อยู่ในระบบประกันสังคม 16 ล้านคน จึงเหลือแรงงานนอกระบบ 20 ล้านคน แต่ไม่ได้หมายความว่าแรงงานนอกระบบทั้ง 20 ล้านคนจะได้เงินเยียวยาทั้งหมด โดยจะมีการนำระบบ AI มาช่วยคัดกรอง เพื่อให้เงินเยียวยาถึงมือคนที่เดือดร้อนจริงๆ

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การลงทะเบียนรับการเยียวยาไวรัสโควิด-19 ผ่านเว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com นั้น ระบบจะรองรับการทำธุรกรรมได้ 58,000 ทรานแซคชั่นต่อวินาที โดยสามารถลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ หากมีคำถามให้ถามผ่าน Call Center ของธนาคารกรุงไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-111-1144 ทั้งนี้ หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปที่สาขาธนาคารทั้ง 3 ธนาคาร เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และหากไปที่สาขาก็ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซด์อยู่ดี