ช่วงนี้ Admin หันไปทางไหนก็เจอแต่คนบ่น เพราะได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ทั้งเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ที่เป็นทั้งลูกจ้างและเจ้าของกิจการ ทุกคนได้รับผลกระทบมาก บางคนได้รับผลกระทบมากถึงมากที่สุด 

ก็คงไม่แปลกอะไรกับสถาวะสถาณการณ์ "โรค(กำลัง)ระบาด" ซึ่งไม่เฉพาะประเทศไทยที่กำลังเผชิญกับสถาณการณ์วิกฤตินี้ แต่ทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตินี้อยู่เช่นเดียวกัน

คนที่โดน Covid-19 เล่นงานหนักที่สุดนอกเหนือจากลุงตู่แล้ว ก็เห็นจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า อาชีพอิสระหาเช้ากินค่ำ ที่บางคนถึงขั้นมียอดรายรับต่อวันเป็น 0 บาท บางคนติดลบ เพราะต้องจ่ายหนี้นอกระบบ และกำลังจะกลายเป็น "ซอมบี้ Covid-19" ในไม่ช้า

และคงไม่ต้องพูดถึงมาตรการป้องกันที่ผ่าน ๆ มาของรัฐบาล ว่าในมุมมองของประชาชนที่เสพข่าวไม่ว่าจะเป็นข่าวจริง ข่าว Fake ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลต้องไม่หลอกตัวเองนะครับ ว่าปัจจุบัน มันเกิด "วิกฤติศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล" มากมายจริง ๆ 

"คุณจะออกมาแถลงว่าคุณดำเนินการดีอย่างไร ไม่มีใครอยากรับรู้หรอก เพราะเค้าจะอดตายกันหมด แต่ที่รู้ ๆ คุณไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์และจัดการมันได้ไม่ดีพอ อย่างเช่น หน้ากากอนามัยที่แม้แต่หมอยังขาดแคลน และชาวบ้านเค้าก็หาซื้อไม่ได้ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริง" บุคคลากรทางการแพทย์ใน รพ.ของรัฐฯ ท่านหนึ่งในกรุ๊ปไลน์แก๊งเพื่อนมัธยมของ Admin กล่าว

และถึงแม้ว่า Admin จะรู้สึกว่า ลุงตู่ และ รมต.รัฐบาลลุงตู่ "บางคน" สมควรโดน "หวด" อยู่บ้าง แต่ในภาวะเช่นนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซ้ำเติมใคร และ ไม่ใช่ภาวะที่จะต้องมาเรียกร้องความช่วยเหลือจากใคร "อัตตา หิ อัตตโน นาโถ" ที่แปลว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป คนที่มัวแต่งอมืองอเท้ารอรับความช่วยเหลือจากคนอื่นอย่างเดียว ก็ต้องยอมรับสภาพกันไป

เมื่อเช้า Admin ได้ไปอ่านข่าวนึง กอปรกับได้เป็นเห็นภาพสถานที่จริงกับตา แล้วก็เกิดปิ๊งไอเดียจากสมองอันน้อยนิดของ Admin ขึ้นมาหนึ่งไอเดีย ที่อาจเป็นประตูทางออกบานเล็ก ๆ ของคนรากหญ้าจากวิกฤตินี้ได้ไม่มากก็น้อย 

ตามภาพเลยครับ Application ส่งอาหารแบรนด์ดัง กำลังรอซื้ออาหารจากร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งกันอย่างคับคั่งเพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่รอรับอาหารอยู่ปลายทาง (อยู่ห่างกัน 2 เมตรตามมาตรการ Social Distancing)

และจากข่าวที่ Admin เพิ่งอ่านเมื่อเช้า

https://www.springnews.co.th/social/637247

เฮ่ย !   กูไปขับ Grab  หรือ Line Man กับเค้าบ้างดีกว่าเมิ้งเนี่ย !

ข่าวจริงไม่จริง Admin ไม่รู้ เพราะข่าวปลอมว่อนกันเต็มไปหมดในหน้าฟีด Facebook จนปวดหัวไปหมด 

แต่ภาพที่เห็นมันเป็นเรื่องจริง เพราะเห็นมากับตา !

"สิ่งเหล่านี้" (เครดิต : คุณอัจฉริยะ) สะท้อนให้เห็นว่า มีการ Work From Home กันเยอะมาก รวมถึงประชาชนตระหนักถึง Social Distancing หรือในภาษาส่วนตัวของ Admin เองคือ มาตรการเก็บตัวและหัวใจไว้ที่บ้าน มากขึ้น

และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพนี้มัน "เวิร์ค" ในภาวะที่คนจำเป็นต้อง "กักตัวเอง"

แล้วทำไมต้องเป็น Grab Food หรือ Line Man หรือ Get หรือ Food Panda หรือ Lalamlove หรือ ฯลฯ ล่ะ !!? ( สปอนเซอร์ต้องเข้าสักเจ้าแล้วนะ ! )

เพราะมันง่ายไงเฮ่ย ! : อยากกินข้าวผัดกุ้ง - กดฉึก 2 ฉึก - รอรับ - จ่ายเงิน - ล้างมือ - กิน - จบ

ไม่ต้องออกไปไหน ไม่เสี่ยง

ในมุมของคนขาย : ผัดๆๆๆๆ - ใส่กล่อง - รับเงิน - จบ

ไม่ต้องออกไปไหน ไม่เสี่ยง

ในมุมของคนส่ง : รับออร์เดอร์ - รอ - ส่ง - รับเงิน - จบ

ช่วงนี้ถนนโล่งทำรอบได้ ออร์เดอร์เยอะ กอบโกยได้

แล้วถ้ามโนฯต่อแบบลม ๆ แล้ง ๆ ล่ะ ?

ถ้าภาครัฐเล็งเห็นความสำคัญ เข้ามาสนับสนุน ร้านอาหารทั่วไป (ที่ไม่ได้อยู่ในห้าง) รวมถึงผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลายแหล่ ทั้งอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป อาหารจานเดียว ทั้งอาหารสด อาหารเปื่อย อาหารพุพอง เป็นหนอง....โทนาฟฟฟฟ 

ให้มาลงทะเบียนใน Platform ของรัฐบ้าง (เอางบซื้อเรือดำน้ำแบ่งมาจ้างเอกชนพัฒนา Application แบบเร่งด่วนระยะสั้น) 

ผมเชื่อว่าสามารถเร่งทำโดยใช้ระยะอันสั้นได้ โปรแกรมเมอร์ไทยเก่ง ๆ มีเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 (*** รู้สึกว่าจะมีแล้วด้วยนะ เป็น App ที่ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME แต่ชื่ออะไร Admin จำไม่ได้ ใครรู้ช่วยบอกที *** )

ให้สามารถเป็นทั้ง ผู้ขาย และ ผู้ส่ง

- รัฐฯ เข้าไปควบคุมคุณภาพอาหาร และ กระบวนการผลิตได้ 
- รัฐฯ สามารถช่วยเหลือร้านอาหารรากหญ้า และ ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรงได้
- รัฐฯ ได้ฐานข้อมูลร้านอาหารทั่วไป เพื่อดำเนินการในส่งเสริมเรื่องต่าง ๆ รวมถึงเรื่องภาษีในอนาคตต่อไปได้
- รัฐฯ ตัดวงจรการขายสินค้าเกินราคาได้ระดับหนึ่ง
- รัฐฯ หยอดงบประมาณเพื่อช่วยเหลือในเรื่องค่าอาหาร หรือ ค่าส่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับปัจจัย 4 ที่ราคาถูกลงได้โดยตรง และตรงจุดมากขึ้น ผ่าน Point ใน App ของรัฐฯ ให้นำ Point เหล่านี้ไปซื้อสินค้าใน App ได้ ผู้ขายเอา Point ที่ได้ไปแลกเป็นเงินโดยรัฐฯเป็นผู้จ่าย

*** ดีกว่าหว่านเงินพัน - สองพัน โดยที่ไม่รู้ว่าผู้ที่ได้รับจะนำไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจริง ๆ หรือไม่ ***

- รัฐฯ ส่งเสริมมาตรการ Social Distancing ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น หรือ ถ้ามีการประกาศ "เคอร์ฟิว" ห้ามออกนอกบ้านแบบ อู่ฮั่น จริง ๆ จะเป็นประโยชน์มาก 

ผู้ส่งอาหารเหล่านี้จะถูกแต่งตั้งให้เป็นหน่วยอัศวินม้าเร็วในการส่งอาหารให้ประชาชนเข้าถึงอาหารได้ง่ายขึ้น ประชาชน Panic น้อยลง (เมิ้ง)
- ฯลฯ

- ประชาชน สามารถเข้าถึงอาหารและปัจจัยสี่ได้ง่ายขึ้น
- ประชาชน ไม่ต้องกังวลเรื่องต้องกักตุนอาหาร ก็สั่งเอาง่ายกว่านี่หน่า แถมมีให้เลือกเยอะแยะ
- ประชาชน ซื้ออาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคได้ในราคาที่ถูกลง เนื่องจากตัวเลือกเยอะขึ้น
- เพิ่มโอกาสคนที่ต้องการหารายได้จากการส่งสินค้าได้มากขึ้น
- ฯลฯ

***** แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ! มาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น หรือ "อาชีพชั่วคราว" เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้เท่านั้น *****
***** แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ! มาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น หรือ "อาชีพชั่วคราว" เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้เท่านั้น *****
***** แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ! มาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น หรือ "อาชีพชั่วคราว" เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้เท่านั้น *****
***** แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ! มาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น หรือ "อาชีพชั่วคราว" เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้เท่านั้น *****

ใครจะมานอนรอสั่งซื้ออาหารอยู่บ้านได้อย่างเดียวล่ะ เงินมันก็ค่อย ๆ หมดไปเรื่อย ๆ 

คนซื้อไม่มีรายได้จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ จริงมั้ยครับ !!!

แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมเห็นว่ามันสำคัญที่สุด ก็คือ 
- มันเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคได้มากขึ้น
- มันช่วยให้คนที่ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน หรือ ต้อง Work from Home ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
- มันสร้างรายได้ให้บางอาชีพที่เป็นอาชีพของคนรากหญ้า
- มันลดอัตราการออกนอกบ้าน = ลดโอกาสในการ ติด - แพร่เชื้อ

กราฟผู้ติดเชื้อยิ่งลด ก็หมายถึงระยะเวลาของช่วงวิกฤติมันสั้นลง
  
ผมว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสดี ที่รัฐบาล จะเข้ามาสนับสนุน "อาชีพชั่วคราว" ที่นอกจากจะเป็นการช่วยซัพพอร์ตมาตรการ Social Distancing ได้อีกทางหนึ่ง  ถ้าทำได้อย่างเป็นรูปธรรมแนวคิดนี้อาจจะช่วยบรรเทา วิกฤติศรัทธา ของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลได้อีกทางก็เป็นได้นะครับ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่พิมพ์มาเสียยืดยาวคือลองมโนฯเล่น ๆ นะครับ ทำได้จริง หรือ ไม่ได้จริง "ผมก็ไม่รู้" แค่ "มโนฯแก้เครียดไปวัน ๆ" ฮ่าฮ่าฮ่า

Admin : ฺBong