ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุม
ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้นซ์กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ สาระสำคัญยังอยู่ที่สถานการณ์ไวรัส COVID-19 โดยเฉพาะการประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานช่วง 22.00 – 04.00 น. ตั้งแต่ 3 เม.ย.63 ในเรื่องดังกล่าว
ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับร่วมกันปฏิบัติตามที่รัฐบาลประกาศอย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้กำหนดแนวทางการใช้กำลังเพื่อรองรับการประกาศใช้เคอร์ฟิวดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และแผนแม่บทกองทัพบกที่ได้มีการจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยการสนับสนุนกำลังจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ตามกลไกของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฝ่ายทหาร เป็นผู้ประสานการปฏิบัติร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมย้ำว่าในขณะนี้ประเทศไทยกำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัส ถือเป็นการบริหารสถานการณ์ที่มีความแตกต่างจากเดิม กองทัพบกจะใช้หน่วยทหารทุกหน่วยทุกสายงานเข้าไปสนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์อย่างดีที่สุด
สำหรับภาพรวมในเรื่องแนวทางการใช้กำลังเจ้าหน้าที่จะมีจุดมุ่งหมายหลัก เพื่อการควบคุมพื้นที่ ดูแลประชาชน และควบคุมการแพร่ระบาด โดยจะใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นส่วนรับผิดชอบหลัก ทั้งในระดับตำบล อำเภอและจังหวัด สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารจะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในลักษณะการสนธิกำลังร่วมระหว่าง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ในการจัดตั้งด่านตรวจร่วม สายตรวจป้องปรามและการบังคับใช้กฎหมาย
การประชุมในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ว่า
เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกองทัพบกได้มีการประเมินสถานการณ์และเตรียมแนวทางป้องกันไว้ล่วงหน้าก่อนที่การแพร่ระบาดจะขยายตัว พร้อมกับชี้ให้เห็นว่า หากย้อนไปดูการปฏิบัติของกองทัพบกตามลำดับเวลาที่ผ่านมา จะพบว่า กองทัพบกได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ดำเนินมาตรการที่เกี่ยวเนื่องกับการควบคุม การป้องกันไว้ในหลายรูปแบบ อาทิ ได้ส่งกำลังพลจำนวน 2,000 นาย ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อสำรองไว้แล้ว 800,000 มิลลิลิตร, การออกปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนและพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่สาธารณะใน กทม.
เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค, การประกาศห้ามกำลังพลกลับเข้าที่พักในค่ายทหารหลังเวลา 21.00 น.,
การจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 กองทัพบก, การออกมาตรการเป็นการเฉพาะสำหรับหน่วยทหารในการป้องกันเสริมสร้างสุขอนามัยทั้งในระดับหน่วย กำลังพลและครอบครัว, การบริหารจัดการบุคคลากรทางการแพทย์ เวชภัณฑ์และสถานที่เตรียมรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ เป็นต้น
ซึ่งจากสั่งการของผู้บัญชาการทหารบกหรือนโยบายเฉพาะด้านของกองทัพบกที่ดำเนินการมาแล้ว เกิดจากความห่วงใยและประเมินสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า มุ่งหวังเพื่อพิทักษ์กำลังพลให้มีความแข็งแรง พร้อมที่จะออกไปปฏิบัติภารกิจดูแลประชาชน และสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์ COVID-19 ในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ำให้ผู้บังคับหน่วยดำเนินตามแนวทางที่กองทัพบกกำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง และเคร่งครัดควบคู่
ไปกับการสร้างวินัย รวมถึงการดูแลผลกระทบทางเศรษฐกิจระยะยาวที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย