นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุรายการหนึ่ง ถึงเหตุจลาจลที่เรือนจำบุรีรัมย์ ซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดของผู้ต้องขังในเรื่องโควิด-19 ว่า มาตรการในการป้องกันโควิด-19 ภายในเรือนจำอาจไม่ได้ดี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตนยืนยันว่า จะทำให้ดีที่สุด ที่ผ่านมามีผู้ต้องขังติดเชื้อเพียงแค่ 1-2 คน แต่มีผู้ต้องขังบางคนที่พยายามปลุกปั่นให้เกิดความวิตกกังวล จนทำให้เกิดความเสียหายและสูญเสียงบประมาณของประเทศชาติโดยไม่จำเป็น โดยตนตั้งใจว่าจะพยายามไม่ของบประมาณเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ทั้งนี้ที่ตนบอกว่าไม่ 100 เปอร์เซ็นต์เพราะจำนวนคนที่ต้องดูแลนั้นมีจำนวนมากหากเทียบสัดส่วนของเจ้าหน้าที่ที่มี แต่เราจะทำให้ดีที่สุดและค่อนข้างมั่นใจกับมาตรการที่ดำเนินการไว้
นายสมศักดิ์ฯ ยังกล่าวถึงรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำ ที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ต้องขังที่เป็นอดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง มาเป็นพิธีกรจัดรายการเพื่อให้ความรู้และมาตรการแก่ผู้ต้องขังว่า หากไม่เกิดกรณีจลาจลที่เรือนจำบุรีรัมย์ ก็จะไม่เกิดรายการนี้ขึ้นมา แต่ไม่ใช่มีเพียงแค่นายสรยุทธคนเดียว ยังมีทีมงานที่ร่วมทำรายการอีกหลายคน ส่วนที่มีการมองว่า นายสรยุทธ ได้สิทธิพิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นหรือไม่นั้น ตนขอชี้แจงว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมเพื่อจะได้ลดโทษในอนาคต ซึ่งนายสรยุทธมีความสามารถในเรื่องนี้ จึงมีโอกาสมาจัดรายการ ยืนยันว่าทุกคนได้สิทธิพิเศษเช่นเดียวกันทั้งหมด เพราะแม้แต่ผู้ใช้แรงงานทั่วไปยังได้ค่าตอบแทน 300 บาทในการออกมาทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วย
"เรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง เฉพาะเหตุจลาจลที่เรือนจำบุรีรัมย์นั้น ต้องใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาทในการซ่อมแซม แต่ส่วนตัวอยากให้เป็นอุทาหรณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวก่อน ทั้งนี้ นอกจากรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำแล้ว ผมยังมีโครงการอื่นๆที่คิดไว้ เช่น อยากให้มีอุตสาหกรรมในเรือนจำ เพื่อหารายได้เป็นกองกลางของเรือนจำ เนื่องจากค่าใช้จ่ายของผู้ต้องขังในเรือนจำสูงมากถึงหลักพันล้านบาทต่อปี" นายสมศักดิ์ฯ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 7 เม.ย. จะมีการพิจารณาลงรายละเอียดการตัดงบประมาณช่วยมาตรการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่ารัฐบาลจะมีมติอย่างไร