นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เรียกเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเข้าประชุมศูนย์เฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ศาลากลางจังหวัดยะลา หลังจากในพื้นที่ จ.ยะลา ยังคงมีผู้ติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจ.ยะลา มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 90 ราย สูงเป็นจังหวัดที่ 5 ของประเทศไทย ผู้ว่าฯ ยะลา จึงได้สั่งการให้พี่น้องประชาชนงดในการทำกิจกรรมออกกำลังกายในที่สาธารณะ และขยายระยะเวลางดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.63

พร้อมทั้งให้สาธารณสุขจังหวัดยะลาจัดชุดพิสูจน์ตัวอย่าง 3 ทีม เก็บตัวอย่างกลุ่มผู้อยู่ระหว่างสังเกตอาการ 2,009 ราย เพื่อตรวจพิสูจน์ตัวอย่างโลหิตและสารคัดหลั่งของกลุ่มผู้อยู่ระหว่างสังเกตอาการจากรพ.บันนังสตา นำส่งรพ.ศูนย์ยะลา โดยใช้รถฉุกเฉินของทางรพ.ในการนำส่งตัวอย่าง โดยขอความอนุเคราะห์กำลังอำนวยความสะดวกด้านจราจรและรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง จากรพ.บันนังสตา ถึงรพ.ศูนย์ยะลา และเน้นย้ำให้ทางป้องกันจ.ยะลาให้แจ้งว่า มีผู้ลงทะเบียนกลับจากต่างประเทศเพื่อเข้ามายังประเทศไทยในวันที่ 18 เม.ย.63 แยกเป็นรายละเอียด ดังนี้

-เดินทางจากประเทศมาเลเซีย 3,815 คน ซึ่งแยกเป็นประชาชน จ.ยะลา 503 คน โดยประสานทางผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศูนย์เฝ้าสังเกตอาการ ให้เตรียมการรองรับให้มีความพร้อม

-เตรียมสถานที่เฝ้าสังเกตอาการเพิ่มเติม จัดเตรียมสถานที่เฝ้าสังเกตอาการเพิ่มเติมกรณีสถานที่จัดเตรียมไว้ไม่เพียงพอ ได้แก่

1.)กองบังคับการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนใต้ ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

2.)โรงแรมปาร์ควิว

3.)โรงแรมแกรนด์พาเลซ

4.)วิทยาลัยสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา

ทั้งหมดดังกล่าวทางจังหวัดยะลามีความพร้อมแล้ว และแจ้งไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงวิตกกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน

สำหรับพี่น้องประชาชนของ จ.ยะลา 503 คน เป็นกลุ่มคนที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ที่เป็นผู้ใช้แรงงานในกลุ่มของต้มยำกุ้ง หรือ ร้านอาหารไทย - มุสลิม และนักศึกษาอยู่ในประเทศมาเลเซีย ไม่ใช่เป็นตัวปัญหาในการเป็นพาหะของการแพร่เชื้อโรคร้ายให้เกิดขึ้น เพราะทุกคนที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศไทย โดยเฉพาะด่านชายแดนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการกักตัว 14 วัน เพื่อดูอาการของโรคหลัง 14 วัน เมื่อปลอดภัยก็มีการส่งกลับบ้านได้ปกติ