ขึ้นชื่อว่านักการเมืองแล้ว แน่นอนว่าต้องผ่านสมรภูมิการเลือกตั้ง ผ่านประสบการณ์การรับรู้เรื่องราวสาระทุกข์สุกดิบของพี่น้องประชาชนมาอย่างมาก ซึ่งความมากน้อยก็คงขึ้นอยู่กับพรรษาของการเป็นนักการเมืองเองด้วย ที่สำคัญ ก้าวย่างจากนักการเมืองสู่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้วไต่ระดับขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ดังนั้น อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ฉบับบนี้ จึงจะขอนำท่านผู้อ่านมาสัมผัสกับนักการเมืองอาวุโสท่านหนึ่ง ที่คร่ำหวอดในแวดวงการเมืองมาอย่างยาวนาน เป็น ส.ส.มาแล้วหลายสมัย ไต่เต้าจากสมาชิกพรรค ขึ้นเป็นถึงรองหัวหน้าพรรค ผ่านตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงมหาดไทยมาแล้ว จนท้ายสุดในปัจจุบัน ขึ้นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งบุคคลผู้นี้ก็คือ “ถาวร เสนเนียม”

สำหรับชื่อของ “ถาวร เสนเนียม” แล้ว ปฏิเสธได้อยากยิ่งนักที่ใครเลยจะไม่รู้จักชื่อของเขา โดยเฉพาะคนในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสงขลา เพราะเจ้าตัวได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้แทนของจังหวัดสงขลามาแล้วถึง 6 สมัย ในสังกัดของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแน่นอนว่า การฝ่าด่านเข้ามาเป็น ส.ส.ได้ยืนยาวถึงขนาดนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักดังที่กล่าวมาแล้ว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์กับ อปท.นิวส์ อย่างเป็นกันเองว่า เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2490 ที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ปัจจุบันก็มีอายุ 73 ปีแล้ว ซึ่งเข้ามาอยู่ในแวดวงการเมืองตั้งแต่ปี 2538 นับถึงวันนี้ก็ 26 ปี

โดยก่อนหน้าที่จะเข้าสู่การเมือง รับราชการเป็นอัยการอยู่ 19 ปี ตำแหน่งสุดท้ายก็คือ อัยการจังหวัดสงขลา นอกจากนั้น ก็ประกอบอาชีพอื่นๆ เพื่อที่จะได้มีโอกาสและประสบการณ์ในการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ซึ่งตอนที่ตัดสินใจลาออกจากอัยการก็เป็นความตั้งใจอยู่หลายปีแล้ว เพราะจากประสบการณ์ที่เห็นว่า นักการเมืองมีบทบาทที่กว้างมาก สามารถที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทุกด้าน

“คือถ้าเราเป็นอัยการ เราก็ให้บริการเรื่องความยุติธรรมเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าเราเป็นนักการเมือง เราก็สามารถที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดูแลเรื่องการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาคน การประกอบอาชีพได้ เป็นต้น ซึ่งนี่คือความคิดที่ได้ตัดสินใจเข้ามาสู่แวดวงการเมือง”

รมช.ถาวร เล่าให้ฟังต่อว่า พอเข้ามาสู่แวดวงการเมือง ก็มีความมุ่งมั่นทำงานจริงจังจริงใจกับหน้าที่และพี่น้องประชาชนและต้องรักประชาชนจริง เพราะฉะนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนได้รับความเดือนร้อนหรือประเทศชาติ ท้องที่เกิดมีปัญหาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เราก็ต้องพร้อมที่จะทำหน้าที่ได้ในทุกๆ ด้าน ซึ่งคิดว่าการทำหน้าที่ด้านการเมืองนั้น จะมีพื้นที่อยู่ทั้งหมด 3 พื้นที่ที่เราจะต้องทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ คือ

1. พื้นที่ในเขตเลือกตั้ง ตนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของปวงชนชาวไทยทั้งหมดก็จริง แต่ตนมีเขตพื้นที่ของตน นั่นคือในเขตจังหวัดสงขลาในเขตเลือกตั้งที่ 6 อันนี้เราต้องพัฒนา ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน และต้องแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนด้วย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถพึ่งพาเราได้

2. พื้นที่ในสภาผู้แทนราษฎร เราจะต้องทำหน้าที่เป้นปากเป็นเสียงนำความทุกข์ของพี่น้องประชาชนมาเสนอในสภาและเสนอต่อรัฐบาล นั่นคือการลุกขึ้นมาพูดทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนและตรวจสอบการทำงานที่ส่อการทุจริตของฝ่ายบริหาร

“และสุดท้ายคือพื้นที่ที่เราจะต้องทำงานกับสื่อสารมวลชนที่เป็นสื่อสาธารณะ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเดี๋ยวนี้สื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะถ่ายทอดความคิด ผลงาน ความรู้สึก ความต้องการของเราที่เก็บมาจากประชาชนออกสู่สาธารณะ คือจะต้องพูดให้เกิดผลประโยชน์ ไม่ให้ผิดกฎหมายหรือทำลายคนดีที่ตั้งใจทำงาน นั่นคือสิ่งที่นักการเมืองจะต้องมีพื้นที่ทำงานอยู่สามส่วนตามที่ได้กล่าวไป”

รมช.ถาวร ยังได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมนี้ เคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารมาแล้ว คือครั้งแรกทำหน้าที่ในเรื่องของการเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่จะมุ่งเน้นเรื่องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนที่มาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมนี้ ก็มีหน้าที่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศและทางราง

ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่รับผิดชอบ คือเรื่องท่าอากาศยาน โดยเราจะต้องเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เชื่อมโลกเชื่อมไทยให้ได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เกิดความสะดวกสบายและปลอดภัยในการเดินทาง

สำหรับการพักผ่อนนั้น รมช.ถาวร บอกว่า ถึงแม้ว่าภารกิจจะแน่นจนไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนัก ท่านถาวรก็เล่าให้เราฟังว่าแต่บางครั้งก็จะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันทั้งครอบครัว หรือบางครั้งก็นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน ไปทำบุญด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ การพบปะพูดคุยกันให้บ่อยที่สุดเมื่อมีเวลา จะได้สอบถามถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาครอบครัว ซึ่งครอบครัวนั้นอยู่บ้านเดียวกันทั้งหมด ดังนั้น การพูดคุยกันจึงเป็นเรื่องสำคัญของครอบครัว

โดย รมช.ถาวร เป็นบุตรชายของนายพวงแก้ว และนางเริ่ม เสนเนียม บิดามีอาชีพเป็นชาวนา ชีวิตครอบครัว สมรสกับ พล.ต.หญิง จันทิมา เสนเนียม มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 3 คน เป็นหญิง 2 ชาย 1 ในปี 2558 ได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างแห่งชาติ จากงานวันพ่อแห่งชาติ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2558

สำหรับการดูแลในกระทรวงคมนาคมนั้น รมช.ถาวร ได้หน้าที่ดูแลหน่วยงานทางอากาศเป็นหลักรวม 7 แห่ง ได้แก่ กรมท่าอากาศยาน (ทย.), บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย(บวท.), บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์ เอเซีย จำกัด, สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.), บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ และบริษัท โรงแรม ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ จำกัด

โดยประวัติด้านการศึกษา จบระดับเตรียมอุดมศึกษา ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สอบไล่ได้เนติบัณฑิตไทย (ได้อันดับที่ 6 ของรุ่นที่ 25) สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิตจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)