สุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทย ซึ่งกลับจากการทำงานที่ประเทศสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน จำนวน 28 คนที่ถูกนายจ้าง-บริษัทจัดหางาน ลอยแพ และงดจ่ายเงินเดือน ตั้งแต่มีนาคม 2563 ว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงแรงงานมีความห่วงใยกลุ่มแรงงานไทยดังกล่าว โดยได้สั่งการเร่งด่วนให้ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ ของกรมการจัดหางาน ดำเนินการช่วยเหลือและดูแลแรงงานไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับหากเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งทางกรมการจัดหางานจะดำเนินการสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537 ต่อไป
อย่างไรก็ดี ตามระเบียบกระทรวงแรงงานว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พ.ศ. 2549 แรงงานที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนฯ เป็นค่าพาหนะ (ในต่างประเทศ) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็น เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท
นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายและสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศจะได้รับการสงเคราะห์และช่วยเหลือหากประสบปัญหาในต่างประเทศ ตามอัตราที่กองทุนฯกำหนด ส่วนเรื่องค่าจ้างค้างจ่ายในต่างประเทศ จะประสานกรมการกงสุล เพื่อติดตามจากนายจ้างต่อไป