นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ตามความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กิโลเมตร(กม.) สัญญาที่ 4-4 งานโยธา งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 7,664 ล้านบาท โดยได้เสนอราคาอยู่ที่ 6,573 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 16.16% หรือลดลงไป 1,091 ล้านบาท หลังจากนี้ รฟท. จะเร่งดำเนินการลงนามสัญญาทันที เพื่อให้เอกชนลงพื้นที่เริ่มงานก่อสร้างได้

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการจัดทำร่างสัญญาจ้างและเงื่อนไขอื่นในการทำสัญญาจ้างงานระบบ ระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญาที่ 2.3) ไฮสปีดเทรนไทย - จีน ออกไปอีก 90 วัน เป็นวันที่ 31 ม.ค.64 เนื่องจากกรอบเวลาเดิมจะต้องลงนามสัญญาดังกล่าวภายในวันที่31 ต.ค.63

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นมีกำหนดลงนามในวันที่ 28 ต.ค.นี้ แต่เนื่องจากขณะนี้ยังเกิดปัญหาโรคโควิด-19 อาจส่งผลต่อความสะดวกในการเดินทาง ทาง รฟท. จึงต้องเสนอขยายเวลาไปก่อน ซึ่งจะเร่งเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาภายในเดือน ต.ค.นี้

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟไฮสปีด ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา จำนวน 14 สัญญา วงเงินลงทุน 179,412 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. ก่อสร้างแล้วเสร็จ และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. การก่อสร้างคืบหน้า 39.29% ช้ากว่าแผน 47.98%

ทั้งนี้ในส่วนอีก 12 สัญญา ดำเนินการประมูลแล้ว 11 สัญญา อนุมัติผลประมูลแล้ว 10 สัญญา เหลือสัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ระยะทาง 30.21 กม. กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างพิจารณากรณีมีการยื่นอุทธรณ์ ส่วนที่เหลือยังไม่ประมูล คือ สัญญาที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. รอความชัดเจนเนื่องจากโครงสร้างทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในช่วงชุมทางบ้านภาชี-นครราชสีมานั้น รอการพิจารณาจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งคาดว่าจะประชุมภายในเดือน ต.ค.นี้