ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เพื่อส่งมอบความสุขให้เป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีนโยบายจัดกิจกรรมขึ้น 2 กิจกรรม เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้เพิ่ม และลดรายจ่ายครัวเรือน ให้กับเกษตรกรและประชาชน ในสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงเพื่อส่งมอบความสุขให้กับเกษตรกรและประชาชน จากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเกษตรที่สวยงาม พร้อมกับได้รับความรู้ทางด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรและประชาชน
สำหรับกิจกรรมที่ 1 เป็นการมอบของขวัญเกษตรกรไทย มีกิน มีใช้มีรายได้พอเพียง โดยจัดทำโครงการ เพิ่มเติมการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เป็นของขวัญให้แก่เกษตรกรและประชาชน เช่น สำนักงานชลประทานที่ 17 ส่งมอบโครงการชลประทานขนาดเล็ก และเพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บน้ำและการระบายน้ำบ้านบึงฉลาม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางนรา อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และดำเนินการปรับปรุงคัน คลอง 29 จุด จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการทางเทคนิคและการบริหารธุรกิจ และสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์ให้กับศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน จำนวน 394 ศูนย์ จัดเวทีเชื่อมโยงเครือข่าย พร้อมทั้งพัฒนา Platform และ Application ในการให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ย และการใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ รวมถึงเปิดตัวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก “ช็อปวิถีใหม่ ส่งสุขทั่วไทยถึงหน้าบ้าน” และรณรงค์ ให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทยผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดหาสินค้าดีมีคุณภาพเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกร จำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ จากสินค้าคุณภาพราคาพิเศษ จากเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน อาทิ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์จากข้าว เป็นต้น ณ จุดจำหน่ายของหน่วยงานและตลาดออนไลน์
ในส่วนของกิจกรรมที่ 2 เพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรฯ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมย่อย 1) เปิดสถานที่ราชการ ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยว เช่น ศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก หาดดอกเกด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์ น้ำจืด 43 แห่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร เป็นต้น 2) เปิดสถานที่ให้ประชาชนเข้าชมฟรี/ลดค่าบริการ เช่น เปิดสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ประชาชนเข้าชมฟรี เปิดพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนเข้าชมฟรี พร้อมทั้ง กิจกรรมฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติและเปิดบริการให้เข้าชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด Wisdom Farm และลดค่าบริการเข้าชมฟาร์มโคนมไทย - เดนมาร์ค จังหวัดสระบุรี เป็นต้น 3) กระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งจุดให้บริการประชาชน บริเวณหน้าสถานที่ราชการ ที่อยู่ในเส้นทางการเดินทางช่วงเทศกาล เช่น ให้บริการจุดพักรถ ห้องน้ำ ขนมและน้ำดื่ม จำนวน 198 จุด
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกษตรกรและประชาชนจะได้รับความสุข สร้างรายได้เพิ่ม และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ตลอดจนเกษตรกรและประชาชนจะได้รับรู้ผลการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงมีทัศนคติที่ดีในการประสานความร่วมมือขับเคลื่อนงานพัฒนาไปพร้อมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป สวัสดีปีใหม่ 2564