นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางสองชั้นเกิดเพลิงไหม้ เส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานี ว่า ภายหลังเกิดเหตุ ขบ.ได้จัดส่งทีมสืบสวนอุบัติเหตุจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ ณ สถานที่เกิดเหตุใน จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของเบรกที่ล้อหลังขวาจนเกิดความร้อนสูงทำให้ยางระเบิด ไปกระทบกับระบบถังก๊าซซีเอ็นจี จนเกิดการรั่วไหลและเกิดเพลิงลุกไหม้ตัวรถอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจสอบที่แน่ชัดและรอผลการสอบสวนของตำรวจเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นายจิรุตม์กล่าวต่อว่า ในส่วนของมาตรการทางกฎหมาย ขบ. โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ บริษัท 407 พัฒนา จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งในข้อหาใช้รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง ทำการขนส่งนอกเส้นทาง และไม่นำรถเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท และสั่งถอนรถคันดังกล่าวออกจากประกอบการขนส่งทันที พร้อมให้ผู้ประกอบการขนส่งนำรถโดยสารสองชั้นที่ติดตั้งซีเอ็นจี อีกจำนวน 48 คัน ซึ่งเป็นรถลักษณะเดียวกันกับคันเกิดเหตุมาเข้ารับการตรวจสภาพรถ สภาพระบบห้ามล้อและระบบซีเอ็นจีน ทุกคันให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
นายจิรุตม์กล่าวว่า ในส่วนของผู้ขับรถ ปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขับรถในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา และจากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดฐานไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์ส่วนควบ (จีพีเอส) บางช่วงเวลา ขบ.จึงได้ดำเนินการลงโทษเปรียบเทียบปรับและพักใช้ใบอนุญาตขับรถของผู้ขับรถดังกล่าวไว้ก่อน โดยเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ขับรถโดยประมาทแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวในอนาคต ขบ.จะทำการขยายผลโดยการเรียกรถโดยสารที่มีการติดตั้งก๊าซซีเอ็นจี ทั่วประเทศมาดำเนินการตรวจสภาพรถ ทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย และระบบซีเอ็นจี ณ สำนักงานขนส่ง ดังนี้ รถโดยสาร 2 ชั้น ที่ติดตั้งก๊าซซีเอ็นจี ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 143 คัน ให้มาดำเนินการตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ รถโดยสารระหว่างจังหวัดที่ติดตั้งก๊าซซีเอ็นจี ทั้งหมดทั่วประเทศรวม 2,175 คัน ให้มาดำเนินการตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน