ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเชียงของ เฟสแรก คาดเปิดเสนอเอกชนร่วมลงทุนปลายปี 64
03 พ.ค. 2564

กรมการขนส่งทางบก เผยความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย เฟสแรกเสร็จแล้ว 100% ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งสินค้าทางถนนขนาดใหญ่ ของกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม มีที่ตั้งประชิดด่านพรมแดนเชียงของ เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าบนเส้นทาง R3A เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย - สปป.ลาว - สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ – ห้วยทราย) ปัจจุบันการก่อสร้างระยะที่ 1 แล้วเสร็จ 100% และได้เชิญชวนผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเข้าใช้พื้นที่ได้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3 ของปี หรือประมาณเดือนกรกฎาคม 2564

ในระยะแรก จะให้เช่าใช้พื้นที่ในส่วนของชานชาลาขนถ่ายสินค้า (CFS) จำนวน 1 หลัง คลังสินค้า จำนวน 2 หลัง พื้นที่สำนักงานที่ชานชาลาขนถ่ายสินค้า จำนวน 2 ห้อง และพื้นที่สำนักงานที่คลังสินค้า จำนวน 2 ห้อง โดยมีอัตราค่าบริการต่อตารางเมตรขึ้นกับประเภทพื้นที่

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแผนการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า "โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย" จะเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนค่าเครื่องมืออุปกรณ์ยกขน และงานระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ และรับผิดชอบในส่วนของการบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) ตลอดระยะเวลาร่วมลงทุน 15 ปี คาดว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ในช่วงปลายปี 2564 และลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ในช่วงปลายปี 2565

ส่วนการก่อสร้างโครงการในระยะที่ 2 ซึ่งจะเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้สามารถเชื่อมต่อและรองรับกับระบบรางนั้น จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการในปี 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงสอดรับกับแผนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในช่วงเวลาที่พอดีกัน ซึ่งจะช่วยสร้างโครงข่ายคมนาคมที่มีการเชื่อมต่อระหว่างการขนส่งรูปแบบต่างๆ อย่างไร้รอยต่อตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำไปสู่การลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของประเทศ และยังรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์

อย่างไรก็ตาม จากากรประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ครม.ได้เห็นชอบอนุมัติโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก ที่คณะกรรมการ PPP เสนอมา โดยเป็นโครงการที่ให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า อุปกรณ์สำนักงาน และส่วนประกอบ และงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการบริการด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ และรับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา หรือ Operation และ Maintenance ทั้งหมด รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางด้านรายได้และจ่ายค่าสัมปทานให้กับภาครัฐ ตลอดระยะเวลา 15 ปี นับจากปีที่เปิดให้บริการ

โดยโครงการนี้ได้ดำเนินงานโครงการในกรอบวงเงินรวม สำหรับค่างานที่เกี่ยวข้องกับค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระยะที่ 2 จำนวน 660.43 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบตามความจำเป็นและเหมาะสมตามแผนการใช้จ่ายจริง ซึ่งกรอบวงเงินค่าตอบแทนในการใช้ประโยชน์ที่ดินในส่วนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก. ของโครงการ ก็มีจำนวน 34.22 ล้านบาท และเป็นเงินหลักประกันตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้องอีก 2 แสนบาท

นอกเหนือจากนี้ในเรื่องของโครงการที่เป็นการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้า หรือ Truck Terminal มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานีปรับเปลี่ยนการขนส่งระหว่างประเทศ ไปสู่ภายในประเทศ หรือเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากถนนสู่ระบบรางผ่านเส้นทางรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมทั้งเป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) โดยโครงการตั้งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ประชิดด่านพรมแดนเชียงของจังหวัดเชียงรายฝั่งเหนือ โดยมีเหนือที่รวมประมาณ 335 ไร่ 53.5 ตารางวา

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...