บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี เตรียมใช้แพลตฟอร์ม www.thailandpostmart.com สู่ระบบพรีออเดอร์และการขนส่งสินค้าเกษตรจากตลาดกลาง สังกัดของกระทรวงเกษตรฯ ไปยังผู้ซื้อที่เป็นร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าว จะแจ้งความต้องการสินค้าล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรวางแผนการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับผู้บริโภค และ จะจัดส่งถึงผู้สั่งซื้อให้ในระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคุณภาพสินค้า สามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้ โดยจะเริ่มทดลองในเดือนมิถุนายนกับสินค้าที่มีความต้องการสูง และมีแหล่งผลิตในจังหวัดเพชรบุรีและท้องที่ใกล้เคียง อาทิ กล้วยหอมทอง สับปะรด ทุเรียนหมอนทอง ฯลฯ
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่าไปรษณีย์ไทยได้ประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ผู้บริหารตลาดกลางการเกษตรท่ายาง (หนองบ้วย) และตลาดกลางการเกษตรบ้านลาด ในการหารือแนวทางพัฒนารูปแบบตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรออนไลน์ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเชื่อมโยงเกษตรกรผู้เพาะปลูกและผู้บริโภคให้มีโอกาสได้ซื้อสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพ พร้อมทั้ง ลดผลกระทบปัญหาการกระจายสินค้าในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้จะเห็นได้ว่ายังมีสินค้าบางประเภทล้นตลาด รวมถึงการถูกกดราคาจากผู้ซื้อ อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพื่อจำหน่ายสินค้า
“ไปรษณีย์ไทยได้รับความไว้วางใจจากคณะทำงานฯให้บูรณาการแพลตฟอร์มการค้าส่งสินค้าเกษตรออนไลน์ของภาครัฐทั้งหมดให้เป็นแพลตฟอร์มเดียวผ่าน www.thailandpostmart.com และเป็นผู้วางระบบการขนส่งสินค้าเกษตรให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพ เพื่อเชื่อมโยงการค้าส่งสินค้าเกษตรจากตลาดกลางสินค้าเกษตรในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั่วประเทศ ไปยังผู้ซื้อที่เป็นร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และเครือข่ายตลาดกลางด้วยกันอย่างเป็นระบบ ด้วยการวางระบบการสั่งซื้อล่วงหน้า หรือ Pre - Order และ จะพัฒนาไปสู่ระบบการประมูลสินค้าเกษตรในอนาคต โดยแพลตฟอร์มดังกล่าว จะแจ้งความต้องการสินค้าล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรวางแผนการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกัน สร้างระบบนิเวศให้แก่กลุ่มสินค้าเกษตรไม่ให้ล้นตลาด มีระดับราคาที่เหมาะสม ลดการสูญเสียในระบบการขนส่ง อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อสินค้านับเป็นการสร้างห่วงโซ่แห่งคุณค่าของสินค้าเกษตรสู่ระบบการค้ายุคใหม่แบบครบวงจร”
ปัจจุบันตลาดค้าส่ง – ค้าปลีกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID – 19 ทำให้ต้องปิดตลาดสินค้าเกษตรหลายแห่ง จึงส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อสินค้าเพื่อนำไปจำหน่าย หรือใช้ประกอบอาหาร และยังส่งผลกระทบถึงเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่ไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจะค่อยๆ คลี่คลายโดยการใช้แพลตฟอร์มตลาดกลางการค้าส่งสินค้าเกษตรออนไลน์ที่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์ม และจัดส่งถึงผู้สั่งซื้อได้ในระยะเวลาที่กำหนด มีการรับประกันคุณภาพสินค้า สามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้ ซึ่งโครงการพัฒนาตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรออนไลน์ จะเริ่มทดลองดำเนินการกับสินค้าที่มีความต้องการสูง และมีแหล่งผลิตในจังหวัดเพชรบุรีและท้องที่ใกล้เคียง อาทิ มะนาว กล้วยหอมทอง กล้วยน้ำว้า สับปะรด ทุเรียนหมอนทอง อำเภอหนองหญ้าปล้อง เป็นต้น โดยมีกำหนดเริ่มโครงการในเดือนมิถุนายนนี้ ดร.ดนันท์ฯ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ เว็บไซต์ Thailandpostmart ได้คัดสินค้าที่มีคุณภาพส่งตรงถึงมือผู้บริโภค พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าหลากหลายประเภทให้สามารถเลือกจับจ่ายสินค้าได้อย่างครบครันบนช่องทางเดียว และผลักดันให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนโดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตอาหารแปรรูป รวมถึงของขวัญของฝากมากขึ้น โดยมีสินค้ามากกว่า 17,000 รายการจากทั่วทุกภูมิภาคให้คนไทยได้เลือกซื้อในราคาพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ที่ต้องการร่วมเป็นพันธมิตรและจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางไปรษณีย์ไทย ยังคงสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ทางที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่ รวมถึงสามารถสมัครด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ Thailandpostmart ซึ่งไปรษณีย์ไทยยินดีที่จะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ รวมถึงช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเดินหน้าและก้าวข้ามผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน