“เอไอเอส” เผย โควิดเร่งองค์กรนำดิจิทัลขับเคลื่อนธุรกิจ ชี้บริษัทที่มีแผนดิจิทัลจะสามารถสร้างรายได้มากกว่าบริษัทที่ไม่ได้วางแผนนำดิจิทัลมาใช้งาน พร้อมอาสาเป็นพาร์ทเนอร์สร้างองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ชี้องค์กรไทยพร้อมก้าวสู่ดิจิทัล ทรานฟอร์มเมชัน หลังพบภาพรวมของไทยนั้นมี "ดิจิทัลลีดเดอร์" เพียง 3% เมื่อเทียบกับทั่วโลกที่มี 5%

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวในงานสัมมนา AIS Business Digital Future 2021 - Your Trusted Smart Digital Partner ว่า ปัจจุบันบริบททั่วโลกต่างเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง จากผลกระทบของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยปีที่ผ่านมา คือการรับมือในภาวะฉุกเฉินและเรียนรู้เพื่อพร้อมสู่การปรับตัว เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันจนถึงจบไตรมาสแรกของปีนี้ได้ยืนยันแล้วว่า โควิด-19 กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริบทรอบตัวเราไปแล้ว หรือนิวนอร์มอล ส่งผลทำให้โลกออนไลน์และดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย แบบแยกจากกันไม่ได้ไปแล้ว

โดยในส่วนขององค์กรธุรกิจต่างๆ ล้วนแล้วแต่ต้องยกระดับจากการทำงานแบบเดิมมาสู่ดิจิทัล รวมถึงสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งพบว่า องค์กรส่วนใหญ่ต่างมีการปรับตัวนำดิจิทัลเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ โดย 38.6% สร้างช่องทางการขายออนไลน์ และ 79.3% พร้อมรับชำระเงินทางออนไลน์

นอกจากนี้ ยังพบว่า ในช่วงสถานการณ์ล็อคดาวน์ที่แพร่ระบาดรุนแรงขึ้นนั้น องค์กรต่างๆ ได้สร้างออนไลน์ ชาแนลมากขึ้นเป็นอันดับ 1 ถึง 57.1% โดยในส่วนของเอสเอ็มอีต่างปรับตัวอย่างชัดเจนขึ้นใน 4 ด้านคือ เพิ่มการส่งเสริมการขายในตลาดออนไลน์, เพิ่มนวัตกรรมในองค์กร, เพิ่มความยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ เพื่อปรับโครงสร้างต้นทุน

นอกจากนี้ เพื่อให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้น โควิดเป็นตัวเร่งปฏิกริยาให้ทุกองค์กรปรับตัวเร็วขึ้น พบว่า องค์กรไม่ว่าจะขนาดใดมีการปรับตัวมากถึง 18-40 เท่า จากการทำงานแบบเดิม และยังพบว่า บริษัทที่อยู่ในลำดับต้นๆ หรือท็อปเท็นของไทยด้านดิจิทัลสามารถสร้างการเจริญเติบโตของรายได้มากถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับบริษัทที่ไม่ได้วางแผนไปสู่ดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของประเทศไทยนั้น พบว่ามีดิจิทัลลีดเดอร์เพียง 3% เมื่อเทียบกับทั่วโลกที่มี 5 % แต่ประเทศไทยก็โชคดีตรงที่มีสัดส่วนของบริษัทที่ไม่มีแผนการนำดิจิทัลมาปรับปรุงในองค์กรเพียง 5% เท่านั้น เมื่อเทียบกับทั่วโลกที่มีสัดส่วน 9%

“สำหรับเอไอเอสไม่ได้นิ่งนอนใจในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาให้ลูกค้าองค์กรของเรา เอไอเอสได้ก้าวข้ามความเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมไปสู่การเป็น ดิจิทัลไลฟ์ เซอร์วิส โพวายเดอร์ และสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มขึ้นมา พร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กร และ ดีเอ็นเอใหม่ๆให้กับคนในองค์กร ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจหลักของเรายังเป็นโทรคมนาคม แต่เอไอเอสก็มองหาโอกาสการเติบโตในมิติใหม่ๆ รวมถึงการช่วยทรานฟอร์มลูกค้าองค์กรไปสู่ดิจิทัลด้วยบริการและโซลูชั่นที่มี”

นายธนพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เอไอเอสเปิดให้บริการมา ได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท มีบริการด้านดิจิทัลจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น เน็ตเวิร์ก 5จี ทั้งคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์เพื่อให้บริการครอบคลุม ส่วนคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์และคลื่น 26 กิกะเฮิรตซ์ที่เหมาะกับองค์กรในการสร้างแอพพลิเคชัน 5จี ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทาง สามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นเออาร์และวีอาร์ตอบโจทย์การทำงานของโรงงานต่างๆ โซลูชั่นไอโอที บริการดาต้า เซ็นเตอร์ โซลูชันไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ซึ่งมีความจำเป็นต่อองค์กรที่มีการเปิดระบบเป็นดิจิทัลอย่างมาก มีบริการไฟเบอร์ออปติก ที่มีความยามแล้ว 1.6 แสนกิโลเมตร