เขียนให้คิด : โดย ซีศูนย์
กรณีตัวอย่าง การจ่ายเงินจากการจัดซื้อ
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ ช่วงนี้ข่าวคราวเสาไฟฟ้าของท้องถิ่นเริ่มซาลงไปบ้าง เพราะข่าวโควิดมากลบพอประมาณ แต่ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. เข้าตั้งไต่สวนเบื้องต้นแล้ว โดยแยกเป็นรายปีไป ก็คงไม่ช้าครับ เรื่องนี้ถ้าฟังว่าผิด ก็คงโดนทั้งวินัยและอาญา รวมทั้งกฎหมายฮั้วละครับ แต่ถ้าไม่มีมูล ก็ต้องให้เรื่องตกไป บางเรื่องก็ใช่ว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลทุกเรื่อง อยู่ที่พยานหลักฐานที่ปรากฎ ดังที่จะเล่าเรื่องวันนี้เกี่ยวกับการจัดซื้อนี่ละครับ
มีผู้รับเหมารายหนึ่ง ร้องเรียนนายกเทศมนตรีเมืองแห่งหนึ่งกับพวกว่า ทุจริตกรณีจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชื่อ เอ ก็แล้วกัน โดยวิธีพิเศษให้กำจัดขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลเมือง โดยการตัดสิทธิผู้ร้อง ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาด้วย และยังร้องอีกเรื่องว่า เมื่อห้างฯ เอ เข้าทำสัญญาแล้ว ในการทำงานมีการเบิกจ่ายเงินงวดเมื่องานแต่ละงวดแล้วเสร็จ แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้เบิกเงินงวดที่ 9 ให้ห้างฯ เอ ทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ
ท่านผู้อ่านคงเห็นได้ว่า เรื่องนี้ผู้ร้องไปกล่าวหา 2 ประเด็น คือ เรื่องที่ตนไม่ได้รับการพิจารณากลับไปตัดสิทธิ ทั้งนี้ ผู้ร้องอาจเข้าใจหรือไม่เข้าใจเหตุแห่งการตัดสิทธินั้น จึงได้เอาประเด็นนี้มาร้อง เพื่อให้มีการยกเลิกการเสนอราคานั่นเอง กับอีกเรื่อง ผู้ร้องร้องประเด็นว่า งานทำไปแต่ละงวดเมื่อแล้วเสร็จจึงจะจ่ายเงินงวดนั้นให้ แต่กลับมีการจ่ายเงินงวด 9 ซึ่งผู้ร้องเห็นว่า งานงวดนั้น ยังไม่เสร็จ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้แสวงหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นในแต่ละประเด็นแล้ว
ท่านผู้อ่านคงเห็นได้ว่า ประเด็นแรกนั้น ไม่ยาก เพราะ ป.ป.ช.เขาจะไปดูหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับการเสนอราคาและการพิจารณาผล รวมถึงสอบปากคำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็คือคณะกรรมการพิจารณาผลเป็นหลักว่า ทำไมไปตัดสิทธิเขาด้วยเหตุผลใด ถูกต้องหรือไม่ ส่วนประเด็นหลัง ค่อนข้างต้องมีหลักฐานชัดว่า ขณะจ่ายเงินงวด 9 นั้น งานเสร็จแล้วหรือไม่ ขณะไปสอบนั้น มันเสร็จหมดแล้วละครับท่านผู้อ่าน เพราะ ป.ป.ช.ไปสอบหลังเหตุการณ์ อาจหลายเดือนหรือเป็นปี ก็ต้องดูที่พยานเอกสารกับพยานบุคคลเป็นหลัก ซึ่งก็ยาก เพราะไม่เห็นเหตุการณ์จริงว่า งานเสร็จแล้วหรือไม่ขณะจ่ายเงินงวดนั้น ก็ต้องดูว่ามีภาพถ่ายมีพยานบุคคลประกอบ รวมถึงเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายที่ชัดเจนพอฟัง จึงจะเอาผิดเขาได้
เรื่องกล่าวหานี้ปรากฎว่า ในประเด็นแรก ฟังได้ว่า นายกเทศมนตรีรายนี้ได้อนุมัติให้สรรหาผู้รับจ้างโดยวิธีพิเศษ และได้กำหนดเงื่อนไขในการทำงานของผู้รับจ้างไว้ 8 ข้อ ในขั้นตอนสรรหาคณะกรรมการจะมีหนังสือเชิญให้ผู้รับจ้างที่มีอาชีพกำจัดขยะร่วมเสนอราคา พร้อมทั้งแนบเอกสารรายละเอียดของคุณสมบัติและเงื่อนไขในการทำงานของผู้รับจ้าง เพื่อให้ผู้รับจ้างทุกรายทราบแล้ว ผู้ร้องจึงย่อมทราบดีถึงคุณสมบัติของผู้รับจ้างและเงื่อนไขการทำงาน
เมื่อฟังว่า ผู้ร้องทราบและเข้าร่วมในการเสนอราคาโดยยื่นเอกสารประกอบเพียง 2 รายการ ได้แก่ โฉนดที่ดินและสัญญาจ้างงานเดิม โดยไม่มีเอกสารเกี่ยวกับการได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเกี่ยวกับกำจัดขยะมูลฝอยหรือได้รับอนุญาตให้สามารถนำขยะไปทิ้งจากหน่วยราชการหรือส่วนราชการท้องถิ่น คณะกรรมการจัดจ้างจึงมีอำนาจตัดสิทธิผู้ร้อง ประกอบกับความเห็นของนิติกรถึงกรณีที่ผู้ร้องขาดคุณสมบัติว่า ผู้มีอำนาจพิจารณาจะต้องตัดสิทธิผู้ร้องเนื่องคุณสมบัติไม่เป็นไปตามที่กำหนด การที่คณะกรรมการฯพิจารณาตัดสิทธิผู้ร้องเนื่องจากขาดคุณสมบัติไม่มีใบอนุญาตจากส่วนราขการ และผู้ร้องเองทราบดีแล้ว จึงเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ส่วนประเด็นตรวจรับงานจ้างเบิกจ่ายเงินทั้งที่งานยังไม่แล้วเสร็จ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในข้อ 14 ของสัญญาจ้างกำจัดขยะระหว่างเทศบาลเมืองแห่งนี้กับห้างฯ เอ ผู้รับจ้างกำหนดงวดงาน 12 งวด ในงวดที่ 9 มีรายละเอียดว่า ต้องปูผ้ายางกันซึมบนหลุมนำขยะทิ้งกลบดินถมให้แล้วเสร็จไม่น้อยกว่า 270 วัน (วันที่ 9 กันยายน) ซึ่งหมายความว่า การทำงานงวดที่ 9 จะครบกำหนดงวดการทำงานและสามารถเบิกจ่ายได้ต่อเมื่องานถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน ประกอบกับบันทึกประจำวันของช่างคุมงานงานงวดที่ 9 กำหนดตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ถึง 9 กันยายน ซึ่งห้างฯ เอ ส่งมอบงานเมื่อ 15 กันยายน วันที่ 16 กันยายน คณะกรรมการตรวจรับไปตรวจรับงานทั้งให้ถ้อยคำว่า งานงวด 9 มีการกำจัดขยะพร้อมฝังกลบเรียบร้อยตามสัญญา จึงได้ลงลายมือชื่อในใบตรวจรับ
ส่วนการอ้างภาพถ่ายของที่กำจัดขยะปรากฎวันที่ 19-26 กันยายนว่า ไม่ได้ฝังกลบขยะเรียบร้อยนั้น มิใช่วันส่งมอบและตรวจรับงานงวดที่ 9 ที่งานไม่เรียบร้อย ก็เป็นไปตามลักษณะของการจัดเก็บขยะและนำมาทิ้งที่ต้องดำเนินไปต่อเนื่องวันต่อวัน แต่ละวันหลังจากตรวจรับงานงวดที่ 9 แล้วก็เป็นงวดงานใหม่ทันที เป็นไปได้ที่งานอาจไม่เรียบร้อยเมื่อกรรมการไปตรวจรับในช่วงวันที่ 20 -27 กันยายน ต่างยืนยันว่า งานไม่เรียบร้อยมีขยะกระจัดกระจาย ทั้งบันทึกช่างคุมงานระบุว่าวันที่ 17- 23กันยายน ผู้รับจ้างไม่ได้ฝังกลบ จึงฟังว่า ระหว่างนั้น มีการกำจัดขยะไม่เรียบร้อยจริง แต่เป็นงวดงานที่ 10 ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแจ้งรับจ้างไปทำให้ถูกต้องหรือพิจารณาปรับในแต่ละวัน
นอกจากนั้น มีบันทึกของงานธุรการเมื่อวันที่ 23 กันยายน อ้างว่า งานงวด 9 ไม่เสร็จ ก็เป็นการทำเอกสารฝ่ายเดียวเป็นการกล่าวอ้างไม่มีหลักฐานใดสนับสนุน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ไปพบเอกสารตรวจรับของกรรมการตรวจรับ ลงวันที่ 27 กันยายน ระบุว่า ผู้รับจ้างส่งมอบงาน 15 กันยายน คณะกรรมการไปตรวจรับวันที่ 16 ถึง 17 กันยายน ผู้รับจ้างทำงานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา โดยไม่ทำการฝังกลบให้เรียบร้อย และปรากฎลายมือชื่อกรรมการตรวจรับ 2 คน แต่ทั้ง 2 คน ให้การว่า ได้ลงชื่อโดยไม่อ่านเนื้อหาให้ละเอียดและเกิดความสับสนในเนื้องานที่มีหลายงวด น้ำหนักเอกสารดังกล่าว จึงถูกลดทอนความน่าเชื่อถือไป จึงฟังไม่ได้ว่า ได้ตรวจรับงานงวด 9 และเบิกจ่ายเงินให้ห้างฯ เอ ทั้งที่งานไม่แล้วเสร็จ
ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่า มีหลักฐานบันทึกของกรรมการตรวจรับฟังเสมือนว่างานงวด 9 ยังไม่แล้วเสร็จจริง แต่เมื่อคำให้การของคนบันทึกปฎิเสธว่า ไม่ได้ดูละเอียดและสับสนเนื้องานที่มีหลายงวด จึงต้องยกประโยชน์ให้ผู้ถูกร้องไป เรื่องนี้ขณะนั้น มีการแสวงหาเบื้องต้นก่อนจะรับไม่รับ เมื่อฟังไม่ได้ก็ไม่รับพิจารณา นายกคนนี้จึงโชคดีไปที่พยานที่เกี่ยวข้องให้การตัดพยานที่ตัวเองทำขึ้นอีก ทั้งเนื้องานจ้างกำจัดขยะเช่นนี้ดูเหมือนคล้ายกันทุกงวดงาน ก็ย่อมยากที่จะหาหลักฐานได้ชัดกว่านี้ แต่ท่kนผู้อ่านที่เป็นผู้บริหารท้องถิ่น ก็พึงระวังเรื่องขยะนะครับ เป็นปัญหามาจนทุกวันนี้หลายพื้นที่ครับ