นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาอัตราค่าบริการของรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในพื้นที่ต่างจังหวัด นอกจากกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากได้รับการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2537 ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถแท็กซี่ดังกล่าวติดตั้งมาตรค่าโดยสารแทนการเก็บค่าโดยสารแบบเหมาตามระยะทาง โดยพิจารณาอัตราค่าโดยสารจากปัจจัยด้านต้นทุนการเดินรถ ค่าครองชีพ ราคารถ อะไหล่ ค่าจ้างแรงงาน และค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก คิดอัตราค่าโดยสาร 40 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6 บาท ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10 บาท กรณีที่รถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรานาทีละ 1 บาท สำหรับค่าบริการอื่น กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้รับจ้าง ให้เรียกเก็บค่าบริการเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 20 บาท 
ทั้งนี้ ได้มอบให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่ง เชิญผู้ประกอบการรถแท็กซี่เข้าร่วมประชุม เพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติก่อนปรับอัตราค่าโดยสาร อาทิ การยกระดับคุณภาพบริการ และการปรับปรุงสภาพรถให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม 2560 และเสนอประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่น สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (TAXI METER) ที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร เพื่อลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในเดือนมกราคม 2560 และสามารถใช้อัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ใหม่ได้ภายในต้นเดือนมีนาคม 2560