กาญจนบุรี คนนี้ติดดินไม่ขาดจริงๆ สส.หนุ่ม ยศวัฒน์ ร่วมทำบุญอย่างยิ่งใหญ่แสดงความอาลัยพร้อมมอบกรมธรรม์คุ้มครองให้กับญาติผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของอสม.ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 12 / 8หมู่ 7 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี บ้านของนายวิชัย-วนิดา เล่าทรัพย์ ตำบลแสนตอ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดกาญจนบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมฟังสวดเจริญพระพุทธมนต์เย็น ครบ 100 วัน ของนายวิชัย เล่าทรัพย์ อายุ 74 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านและเป็นเจ้าหน้าที่อสม. ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่จนติดเชื้อโควิด19  โดยมีนางวนิดา เล่าทรัพย์ อายุ 65 ปี ภรรยาพร้อมด้วย ครอบครัว ญาติพี่น้องร่วมต้อนรับ ซึ่งการทำบุญครบ 100 วัน ถือเป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลครั้งสุดท้ายให้กับดวงวิญญาณของผู้ตายเพราะในช่วง 100 วัน ดวงวิญญาณของผู้ตายยังคงอยู่ในสภาพของดวงจิต ยังมิได้เดินทางไปสู่ภพภูมิหน้าตามคำพิพากษาจากยมโลก จึงยังได้รับรู้ถึงกุศลผลบุญที่ญาติได้ทำส่งมาให้การทำบุญครบรอบวันตายให้กับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ถือว่าเป็นการทำบุญที่ใหญ่ยิ่งสำหรับดวงวิญญาณที่ตายไปแล้ว เพื่อเป็นการเตือนดวงวิญญาณให้รับรู้ถึงความตายและให้ได้รับกุศลจากที่ญาติได้ทำการอุทิศให้ ทำให้ดวงวิญญาณมีความสงบและได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี 

ในด้านของนายยศวัฒน์ สส.เขต 3กาญจน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงของการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ที่ผ่านมานั้นทำให้เจ้าหน้าที่หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ด่านหน้า รวมถึงเจ้าหน้าที่ อสม.ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยงสูง  ตนจึงได้นำเรื่องนี้เข้าประชุมสภาและได้พูดคุยถึงประเด็นของประกันภัยโควิดให้กับสส.ของพรรคได้รับฟังทุกคนต่างมีความคิดเห็นร่วมกันว่าเราในฐานะสส.พื้นที่ที่มีหน้าที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะสถานการณ์เช่นนี้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสูงควรมีหลักประกันเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้นำเรื่องเสนอให้กับนายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้รับทราบในเรื่องของการทำประกันโควิดให้กับเจ้าหน้าที่ อสม. 

โดยร้องขอให้ช่วยท่านช่วยประสานกับบริษัทประกันชีวิตเพื่อขอสิทธิพิเศษให้กับพี่น้องอสม.จึงประสบความสำเร็จโดยมีมติให้สมาชิกภายในพรรคทำประกันภัยโควิดให้กับพี่น้องอสม. ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งทางสส.พื้นที่จะต้องร่วมสำรองจ่าย ซึ่งสส.ในพรรคทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกันว่ามีความประสงค์จะออกสำรองจ่ายในส่วนนี้  จึงเป็นที่มาของการทำประกันภัยโควิดให้กับพี่น้องอสม.ในครั้งนี้

และ สส.ยศวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า  ทั้งนี้กรรมธรรม์ดังกล่าวมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่วันที่  1 กรกฏาคม 2564 ถึง 30 มิถุนายน 2565 ความคุ้มครองประกันภัยไวรัสโคโรน่า 2019 สำหรับ อสม. กรณีติดเชื้อไวรัส มีระยะเวลารอคอย 14 วัน ตรวจพบเชื้อ (เจอ จ่าย จบ) 20,000 บาทต่อปี, ภาวะโคม่า จากการติดเชื้อ 5 แสนบาทต่อปี, เงินชดเชยรายวันจากการรักษาตัวในโรงพยาบาล จากการติดเชื้อ 500 บาทต่อวัน สูงสุด 15 วันต่อปี ไม่เกิน 7,500 บาท กรณีแพ้จากการฉีควัคซีนไวรัสโคโรน่า 2019 ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน จ่ายตามจริง 50,000 ต่อปี  ซึ่งกรณีของครอบครัวของนายวิชัย เล่าทรัพย์ เจ้าหน้าที่ อสม.ที่เสียชีวิตนั้นในวันนี้ตนได้ถือโอกาสนำกรมธรรม์มามอบให้กับครอบครัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าได้รับจริงและเป็นการช่วยเหลือครอบครัวหลังจากที่ต้องสูญเสียเสาหลักของบ้านไปกับสถานการณ์ครั้งนี้ โดยทางนายวิชัย ผู้เสียชีวิตได้ทำเอกสารมอบกรมธรรม์หากเสียชีวิตให้กับนางสาวชัดชะดาพร ,นางสาวพรพิมล เล่าทรัพย์ หลานสาวทั้ง 2 คนในการรับผลประโยชน์เพื่อใช้เป็นค่าครองชีพต่อไป

ในด้านของนางวนิดา เล่าทรัพย์ อายุ 65 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวต่อ ตนต้องขอขอบคุณท่านอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย,คุณนวลพรรณ ล่ำซำหรือมาดามแป้ง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเมืองไทยประภัย จำกัด(มหาชน) และนายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ทำประกันภัยไวรัสโคโรน่า 2019 สำหรับ อสม. ซึ่งในตอนแรกตนและครอบครัวมีความวิตกกังวลกับการติดเชื้อโควิด-19 ของนายวิชัย เล่าทรัพย์ ที่ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่จนต้องมาเสียชีวิตทำให้ครอบครัวมีความวิตกกังวลกับค่าใช้จ่ายและการดำเนินชีวิตหลังจากนี้เป็นอย่างมาก จนมาทราบอีกครั้งว่านายวิชัยได้มีกรมธรรม์คุ้มครอง

สำหรับอสม.ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีต่างๆ ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างหากไม่มีกรมธรรม์ตัวนี้คุ้มครองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะดำเนินชีวิตได้อย่างไงในอนาคต ตนและครอบครัวเล่าทรัพย์ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่ร่วมกันผลักดันกรมธรรม์คุ้มครองเจ้าหน้าที่อสม. ถึงแม้จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวก็ตามแต่ก็ไม่สูญเปล่าที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้ ตนและครอบครัวขอเป็นกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มกำลังความสามารถขอให้ผลบุญต่างๆจนคุ้มครองจนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน  นางวนิดากล่าว

ทีมข่าวกาญจนบุรี