ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
มหาดไทย -ก.พ.ร.ดึง 7 ภาคีขับเคลื่อนจังหวัดผลสัมฤทธิ์สูง
23 พ.ย. 2564

กระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วม อ.ก.พ.ร. - สำนักงาน ก.พ.ร. และผู้ว่าฯทั่วประเทศ ขับเคลื่อนแนวทาง “จังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง” เน้นย้ำดึง 7 ภาคีเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนการพัฒนางาน พัฒนาการให้บริการประชาชน สร้างความเข้มแข็งของระบบราชการของประเทศอย่างยั่งยืน

นายไมตรี อินทุสุต ประธานอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาระบบการบริหารราชการในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น เป็นประธานการประชุมแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนารูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการในจังหวัดให้มีการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง (High Performance Province : HPP) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน  โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมและมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM) โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นางศิริพร วัยวัฒนะ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. นายบรรจบ จันทรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธนศักดิ์ มังกโรทัย  ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบบริหารส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมการประชุม

ประธาน อ.ก.พ.ร. กล่าวว่า การประชุมแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนารูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการในจังหวัดให้มีการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง (High Performance Province : HPP) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ในวันนี้ เป็นโจทย์สำคัญของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านบริหารราชการแผ่นดิน ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับปรับปรุง) ประเด็นปฏิรูปที่ 4 การสร้างความเข้มแข็งในการบริหารราชการในระดับพื้นที่ โดยประชาชนเพื่อประชาชน ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีตัวอย่างการบริหารอย่างมีผลสัมฤทธิ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของประชาชนและสังคม คือ การแก้ปัญหาและบริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล กฎหมาย งบประมาณ และการมีส่วนร่วมของภาคสังคม และภาคส่วนต่าง ๆ ผ่านกระบวนงาน 5 ด้าน ได้แก่ 1) การบริหารสถานการณ์ 2) การบริหารบัญชาการ 3) การบริหารบูรณาการ 4) การบริหารบริการ และ 5) การบริหารธุรการและการสื่อสาร สอดคล้องกับรูปแบบการพัฒนาตามแนวทางฯ 4 ด้าน คือ การนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการทำงาน (Digital Government) การพัฒนาไปสู่ราชการระบบเปิด (Open Government) การพัฒนานวัตกรรมของรัฐ (Public Innovation) การพัฒนาสู่การบริการภาครัฐที่เป็นเลิศ (Public Service for Excellence) ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายการตอบโจทย์พี่น้องประชาชนที่สำคัญ คือ การครองใจคน (Satisfaction)

ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณสำนักงาน ก.พ.ร. ในการเป็นพี่เลี้ยงด้านการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานที่ดีให้กับกระทรวงมหาดไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเราชาวมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการพัฒนางานของทุกกรม ทุกจังหวัด และทุกสำนัก/กองในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีการดำเนินการพัฒนารูปแบบและกลไกการทำงานและติดตามผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการพัฒนากระบวนงานตามแนวทางฯ ในครั้งนี้ จะทำให้เรามั่นใจว่าการพัฒนางานจะเป็นไปตามกรอบแนวทาง กรอบเวลา และกรอบวิธีการในการพัฒนาตามเป้าหมายของแผนปฏิรูปประเทศและรัฐบาลกำหนด ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีนโยบายให้ทุกจังหวัดเข้าร่วมการพัฒนาตามแนวทางฯ ดังกล่าว ซึ่งผมเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของผู้บริหารทุกกระทรวง ทบวง กรมในพื้นที่ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการพัฒนางานในพื้นที่จังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้จะทำให้จังหวัดมีกรอบในการบริหารจัดการ พัฒนางานอย่างเป็นระบบ ภายใต้หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance) ซึ่งจะสนับสนุนให้จังหวัดเป็น “จังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง” เป็นการ Change for good ให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ และประการสำคัญ คือ ผลจากการขับเคลื่อนการทำงานทำให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์ เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราชาวมหาดไทยที่มีจิตใจสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น เป็นรางวัลที่สำคัญของชีวิตในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมพัฒนากับสำนักงาน ก.พ.ร. อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการพัฒนาการทำงานของส่วนราชการและจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการในจังหวัดให้มีการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง (High Performance Province : HPP) จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีระบบบริหารจัดการทีม มีการวางแผน ระดมความคิดเห็น ทำให้เกิดการพัฒนาระบบงานให้บังเกิดผลดีที่สุด เป็นเติมเต็มกระบวนการทำงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นการพิจารณาจุดแข็ง จุดอ่อน และประเด็นการพัฒนาที่จะรังสรรค์ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่  พร้อมเน้นย้ำ ระดมสรรพกำลังกลไก 7 ภาคีเครือข่าย ได้แก่ ภาคราชการ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน ในการร่วมกันคัดเลือกประเด็น กระทั่งสิ้นสุดกระบวนงาน

จากนั้น นายธนศักดิ์ มังกโรทัย  ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบบริหารส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ชี้แจงรายละเอียดของข้อเสนอแนวทางขับเคลื่อนฯตามกรอบแนวทางการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูงปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รวม 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 การขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก มิติที่ 2 การส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนแบบมีส่วนร่วม มิติที่ 3 การจัดการสิ่งแวดล้อม และมิติที่ 4 การพัฒนาการบริการประชาชน/การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรก คือ การคัดเลือกประเด็นนโยบาย (Agenda) ที่มีความสำคัญในการพัฒนาหรือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข  ขั้นตอนที่ 2 เสนอประเด็น/นโยบาย (agenda) ภายในวันที่ 17 ธ.ค. 64 ขั้นตอนที่ 3 พิจารณาและติดตามความเหมาะสมของประเด็นนโยบายสำคัญและร่วมกันติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการ และขั้นตอนที่ 4 จังหวัดรายงานผลสำเร็จของการดำเนินการตามข้อเสนอภายในวันที่ 15 ต.ค. 65

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกจังหวัด ในการขับเคลื่อนการพัฒนารูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการในจังหวัดให้มีการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง (High Performance Province : HPP) ในปีนี้ ช่วยกันทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรามีข้าราชการน้ำดี มีใจนักรบในการพัฒนางาน พัฒนาระบบ และพัฒนาการให้บริการที่ดีกับพี่น้องประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจะเป็นรางวัลที่สำคัญของชีวิตข้าราชการที่เกิดขึ้นจริงด้วยมือของทุกคน คือ การต้องการสร้างสิ่งที่ดี ทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความสุขเพิ่มมากขึ้น และขจัดปัดเป่าสิ่งที่เป็นความทุกข์ให้หมดไป ยังผลทำให้ระบบราชการของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ได้รับการยอมรับนับถือ และไว้วางใจจากสังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และให้ได้เห็นถึงศักยภาพของพวกเราในการร่วมกัน Change for good ระบบราชการของประเทศไทยให้ก้าวไปอย่างมั่นคง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...