นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบในโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่' ยั่งยืน ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.เมืองจะนะ จ.สงขลา เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และได้จัดให้มีการทำการศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ให้มีความโปร่งใส และเน้นการสื่อสารทำความเข้าใจให้ประชาชนมากขึ้นมุ่งไปสู่การแก้ปัญหา

นายธนกร กล่าวว่า นายสุพัฒนพงษ์ ได้รายงานในที่ประชุม ครม.ว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันจัดทำ SEA โดยให้รับข้อเสนอภาคประชาชนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานอื่นๆ รอการดำเนินการไปก่อน

ทั้งนี้ ครม.ได้รับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการขยายผลโครงการดังกล่าว โดยรับทราบแผนแม่บทและข้อกำหนดการต่างๆ โดยให้ทุกฝ่ายเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการ และรับฟังข้อเสนอภาคประชาชนและเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และผลการดำเนินการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมให้มีคณะกรรมการเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ข้อห่วงใยและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ มุ่งสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ให้ประชาชนได้มีรายได้ที่สูงขึ้น

ด้านนายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา ที่มีผู้ชุมนุมกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น เสนอให้สภาพัฒน์มารับฟังข้อคิดเห็น แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่า ขณะนี้ต้องดูว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือใคร ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งวันนี้มีข้อสรุปจากที่ประชุม ครม.แล้ว และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ โดยได้ส่งตัวแทนจากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งตนคงไม่จำเป็นต้องไปพูดคุยกับผู้ชุมนุมด้วยตัวเอง

ส่วนที่ล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจในผลสรุปในส่วนที่ให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เป็นผู้รับผิดชอบรับฟังความเห็นประชาชน จนมีการขับไล่ตัวแทนที่ไปชี้แจงออกมาจากพื้นที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน และต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งเจตนารมย์ของรัฐบาลต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อย และต้องเป็นที่ยอมรับได้ ทั้งนี้ หากสุดท้ายจำเป็นจะต้องไปพูดคุยด้วย ตนก็ไม่ขัดข้อง

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ยื้อเวลาในการแก้ปัญหา เพราะถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย