พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ประชุมร่วมเหล่าทัพภาค 1 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ทัพภาค 1 กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน ภาค 1 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการเปิดรับฟังความคิดเห็นใน 26 จังหวัดภาคกลาง ตามที่กองทัพบกได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน คณะกรรมการสร้างความปรองดอง ของคณะ ป.ย.ป. โดยมีแนวทางตามที่นายกรัฐมนตรี เน้นให้ขับเคลื่อนเวทีปรองดองในระดับภูมิภาคและอำเภอ เป็นยุทธศาสตร์หลัก จึงต้องลงไปทำความเข้าใจและรับฟังข้อคิดเห็น ผ่านการร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยในแต่ละจังหวัดจะมีการเชิญบุคคล 4 กลุ่ม มาร่วมพูดคุย ประกอบด้วย นักการเมืองท้องถิ่น และกลุ่มผู้สนับสนุน นักวิชาการ วิสาหกิจ และกลุ่มผู้รักชุมชน กลุ่มเอ็นจีโอ ร่วมตอบคำถามทั้ง 10 ประเด็น โดยสามารถถามคำถามเพิ่มเติมได้ตามแต่ละพื้นที่ ย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลาง ไม่ใช่ทหาร
ทั้งนี้ พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขอให้ผู้เข้าร่วมมองในมุมที่เป็นกลาง เพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้ ขอให้มั่นใจในนายกรัฐมนตรี ที่มีความจริงใจและตั้งใจจริงในการขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศ โดยในส่วนระยะเวลา เชื่อว่าด้วยศักยภาพของทัพภาคจะสามารถรับฟังความเห็น และส่งข้อสรุปความคิดเห็นได้ทันสิ้นเดือนนี้ และจะมีการสรุปทุกวันพุธ คาด 3 สัปดาห์น่าจะสรุปผลได้

          พล.ท.อภิรัชต์ ยังเปิดเผยว่า ไม่หนักใจว่าจะมีพื้นที่ใดน่าห่วงเป็นพิเศษ แม้แต่ในจังหวัดปทุมธานี ที่ทางรัฐบาลกำลังควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยระบุว่าการบริหารและปฏิรูปประเทศ เป็นอีกประเด็น ไม่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

          นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ชี้ การมีมาตรา 44 ช่วยทำให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร สามารถทำงานได้สะดวกง่ายขึ้นในพื้นที่ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ส่วนกรณีที่มีคนเสียชีวิตทั้ง 2 เหตุการณ์ ทางรัฐบาล เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพได้ออกมาชี้แจงออกมาชัดเจนแล้ว แต่ในทางกลับกันบางครั้งที่ทหารเข้าไปช่วยงานศพ แต่วัดธรรมกายกลับไปเผยแพร่ว่าทหารไปรื้องานศพ จึงตั้งคำถามว่าสื่อมวลชนจะนำเสนอเรื่องนี้อย่างไร ทางผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เองก็มีความหนักใจ 

          นอกจากนี้ ยังย้ำว่าทหารที่เข้ามาดูแลพื้นที่เพียงต้องการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ได้มีวัตถุประสงค์อื่น การเสียชีวิตที่เกิดขึ้นเป็นห้วงเวลา เช่นเดียวกับเมื่อวานได้มีการวิสามัญของผู้ค้ายาเสพติด แต่กลับมีการนำเสนอข่าวไปในอีกทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสับสน ดังนั้น จะมีการนำประเด็นนี้เข้าไปร่วมเป็น 1 ใน 10 ประเด็น ที่จะต้องมีการปฏิรูป เพื่อไม่ให้มีการนำเสนอข่าวที่ยั่วยุ และเป็นข่าวสารที่ผิด