ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
เหตุจากการเบิกค่าเช่าบ้าน
03 ก.พ. 2565

เขียนให้คิด โดย ซีศูนย์

เหตุจากการเบิกค่าเช่าบ้าน

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ หลังปีใหม่มาไม่เท่าไร บ้านเมืองเรายิ่งยุ่งเหยิงกันไปทั้งโควิท โอมิครอน ทั้งการเมืองระดับชาติที่นักการเมืองเล่นกันแบบเอาเป็นเอาตายหรือปาหี่กันก็ไม่รู้ ปล่อยให้ชาวบ้านพลอยเดือดร้อนทั้งเศรษฐกิจ รายได้ สิ่งของอุปโภค บริโภค หมูเห็ดเป็ดไก่ น้ำมัน ขึ้นกันไปหมด ปัญหาอาชญากรรมก็เกิดกันทุกวัน ท้องถิ่นเองเลือกตั้ง อบต.เสร็จ ก็ยังไม่รู้ว่า กทม.กับเมืองพัทยาจะขยับเมื่อไร ก็บ่นกันเองละครับ

ขอมาเล่าเรื่องงบประมาณที่ท้องถิ่นเรามีปัญหากันมาจนทุกวันนี้ คือเรื่องการเบิกค่าเช่าบ้าน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เทศบาลแห่งหนึ่งที่ยกระดับมาจาก อบต.เดิม ตัวนายกเทศมนตรีกับพวกถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันทุจริตเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านราชการ  เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อครั้งที่เทศบาลนี้ยังเป็น อบต. มีเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนระดับ 6 แกมีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านจากทางราชการ ซึ่งสิทธิการเบิกค่าเช่าบ้านของพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าเช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อ้อเหตุของเรื่องเกิดมาตั้งแต่ปี 2551 นะครับ

ทีนี้ตัวเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนรายนี้ แกไปทำสัญญาเช่าบ้านของลูกพี่ลูกน้องแกเอง เดือนละ 2,500 บาท กำหนดเวลา 1 ปี จากนั้นแกก็ไปยื่นแบบคำขอเช่าบ้านตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป ขณะนั้น อบต.แห่งนี้มีปลัด อบต.ทำหน้าที่นายก อบต. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสภาพบ้านเช่าของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสภาพบ้านเช่าได้มีหนังสือรับรองว่า มีการเช่าและอาศัยอยู่จริง ปลัด อบต.แกจึงรับรองว่า เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนคนนี้เป็นผู้มีสิทธิรับค่าเช่าบ้านและลงนามในฐานะปลัด ปฏิบัติหน้าที่นายก อบต. อนุมัติให้เบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านได้ตามสิทธิ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป

ในขณะเดียวกันวันที่ 1 ตุลาคม เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนที่ขอเบิกค่าเช่าบ้านรายนี้ได้ไปยื่นคำขออนุญาตปลูกสร้างบ้านอีกแห่งของตัวเอง และได้รับอนุญาตจากปลัด อบต.ที่ปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.แล้ว หลังจากนั้นวันที่ 3 ตุลาคม ได้เบิกค่าเช่าบ้านจำนวน 2,400 บาท ให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนคนนี้ไป ต่อมาเดือนตุลาคม 2552 เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนคนนี้ยังตกลงเช่าบ้านหลังเดิมในอัตราค่าเช่าเท่าเดิมต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นสัญญาเช่าฉบับที่ 2 ถ้าจะนับสัญญาฉบับนี้ไปแล้วก็จะครบกำหนดสัญญาเช่าวันที่ 30 กันยายน 2555 แต่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนคนนี้ไม่ได้ยื่นสัญญาเช่าบ้านฉบับใหม่เพื่อประกอบการเบิกเงินค่าเช่าบ้านงวดเดือน ตุลาคม 2555 จนถึงงวดเดือนเมษายน 2558 แต่อย่างใด

ต่อมา อบต.แห่งนี้ได้ยกสถานะเป็นเทศบาล ซึ่งการเบิกค่าเช่าบ้านของเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนรายนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป เทศบาลก็ยังคงอนุมัติฎีกาเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้แก่เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนรายนี้ ทั้งๆ ที่สัญญาเช่าฉบับเดิมนั้น ได้ครบกำหนดเวลาการเช่าไปแล้ว คราวนี้พอเรื่องแดงขึ้น เพราะมีผู้ร้องเรียนไปยังต้นสังกัดเองว่า มีการเบิกจ่ายค่าเช่าบ้านของเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนรายนี้เป็นเท็จ เทศบาลนี้จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ปรากฎผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและผลการสอบสวนทางวินัย เห็นว่า เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนรายนี้มีเคหสถานเป็นของตนเองในท้องที่ที่ไปประจำสำนักงานใหม่ จึงเป็นผลทำให้สิทธิที่จะได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ได้มีการรับรองอาคารดังกล่าว ก็คือบ้านหลังที่เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนไปสร้างใหม่นั่นเองครับ

ทีนี้ต้นสังกัดเขาเองพิจารณาเรื่องราวตามทางสอบสวนแล้ว จึงมีมติลงโทษเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนคนนี้ ซึ่งขณะเมื่อแกถูกลงโทษ แกได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ระดับ 7 ครับ ผลคือ แกถูกไล่ออกจากราชการครับ นอกจากนี้ แล้วต้นสังกัดยังไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เทศบาลนั้น เพื่อให้ดำเนินคดีอาญาต่อ

เรื่องนี้ไม่จบเพียงเท่านี้ใช่มั้ยครับท่านผู้อ่าน เพราะตามกฎหมาย ป.ป.ช. เมื่อพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ว่า มีเจ้าหน้าที่ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการแล้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของเรื่องต้องส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ภายในสามสิบวันนับแต่วันรับเรื่องนั้น เรื่องนี้ก็เช่นกันครับ ตำรวจรับเรื่องก็ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไปพิจารณาดำเนินการต่อทางอาญา ซึ่งถ้าเป็นเรื่องกล่าวหาเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนรายนี้เพียงใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านเท็จ ป.ป.ช.เขาก็จะไม่รับพิจารณา เพราะเป็นเพียงเรื่องการใช้สิทธิ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนคนนี้ไม่ได้มีหน้าที่อนุมัติเบิกจ่ายค่าเช่าบ้านให้ตัวเองแต่อย่างใด เมื่อไม่มีหน้าที่ก็ไม่อยู่ในหน้าที่อำนาจของ ป.ป.ช.ไปทำต่อ

แต่เรื่องนี้ท่านผู้อ่านคงเห็นได้ว่า มันไปเกี่ยวข้องกับตัวปลัดเทศบาล ที่เมื่อทำหน้าที่รักษาการแทนนายก อบต.ไปลงนามอนุมัติเบิกให้โดยมิชอบ รวมถึงต่อมาเมื่อยกฐานะ อบต.เป็นเทศบาล นายกเทศมนตรีอีกคนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามายังไปอนุมัติต่อเข้าอีก สองคนหลังนี้ละครับที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะทำต่อ แต่ทาง ป.ป.ช.เห็นว่า เรื่องนี้แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาล เมื่อเห็นว่ามีมูลที่จะรับดำเนินการได้ก็ตาม แต่มูลค่าความเสียหายไม่มากเป็นเรื่องค่าเช่าบ้าน และเรื่องราวก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรนัก เขาก็จะมีมติส่งเรื่องไปให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยและส่งตำรวจไปดำเนินคดีอาญาแทนต่อไป

ซึ่งท่านผู้อ่านจะเห็นตำรวจไปสอบสวนทำสำนวนเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตกันมาก เพราะ ป.ป.ช.ส่งไปให้ทำแทนนะครับ ท่านนายกฯจะอนุมัติเบิกจ่ายเงินหลวงให้ใครเรื่องอะไรระวังกันบ้างนะครับ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...